วันที่ 16 ตุลาคม 2568 กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ หลังเจ้าของแบรนด์รายหนึ่งออกมาโพสต์คลิปเผยว่า หลังจากไปร่วมไลฟ์กับ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ปรากฏว่าสินค้าของตนถูกยกเลิกออเดอร์ทุกนาที รวมกว่า 7,000 รายการ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล
ต่อมา เจ้าของแบรนด์ได้โพสต์ข้อความชี้แจงในคอมเมนต์ที่มีคนเข้ามาตั้งคำถามว่า พยายามทำให้คนรู้ว่าตนเองถูกยกเลิกแล้วเจนนี่หล่ะควรรับผิดชอบอะไร เอิ่ม ต้องทำใจก่อนวิ่งไปหาเค้าและต้องมั่นใจสินค้าตัว โดยเจ้าของแบรนด์ตอบว่า
เจนนี่ไม่ควรต้องรับผิดชอบอะไรเลย เพราะมันคือความเสี่ยงที่เจ้าของแบรนด์ต้องรับได้อยู่แล้ว ปกติการไลฟ์เอง เปอร์เซ็นต์การถูกยกเลิกออเดอร์จะอยู่ที่ประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ แต่รอบนี้ได้วอลุ่มที่มันเยอะ คนดูที่มันเยอะ และออเดอร์ที่มันเยอะมากๆ หลายหมื่นบ้าน เพราะฉะนั้นการถูกยกเลิกออเดอร์ในจำนวน 7,000 จะตีอยู่ที่ประมาณ 25-30 เปอร์เซ็นต์ การเอาคลิปนี้มาไม่ได้ต้องการให้ใครมารับผิดชอบทั้งนั้น
เจ้าของแบรนด์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า พูดไว้แล้วว่าไม่ว่าจะยังไง จะโดนตีกลับโดนยกเลิกออเดอร์หรืออะไรก็ตาม มันคุ้ม คุ้มมาก คุ้มแก่การไปออกไลฟ์ เพราะได้อินบาวด์เยอะได้ทราฟฟิกเยอะได้อแวร์เนสเยอะ บอกเลยนะมันคุ้มกับการได้ทราฟฟิกจริงๆ เอ็นเกจเมนต์ดีทุกอย่าง ทุกอย่างได้ เรื่องนี้ไม่ควรมีใครต้องรับผิดชอบ
พร้อมระบุอีกว่า เอาจริงนะ คุ้มยิ่งกว่าการยิงแอดเอง บางเดือนเราปาไป 40 เปอร์เซ็นต์ 50 เปอร์เซ็นต์ ก็มีมาแล้ว ส่วนตัวเองโดนยกเลิกอยู่ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ รอบนี้ด้วยความที่มันเป็นกระแส บางคนอาจจะกดด้วยอารมณ์ ผ่านไปวันหนึ่งสองวันอาจจะรู้สึกไม่อยากได้แล้ว ก็ยกเลิกออเดอร์อันนี้เรื่องปกติ แค่รอบนี้มันตกใจนิดหนึ่งว่า มันขึ้นมาถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ประมาณนั้น ยังไงก็คุ้มอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เจ้าของแบรนด์ยังได้โพสต์คลิปเพิ่มเติม เพื่ออธิบายและให้ความรู้เกี่ยวกับสาเหตุของการถูกยกเลิกออเดอร์ รวมถึงชี้แจงว่าการยกเลิกออเดอร์กับการตีกลับสินค้านั้นมีความหมายและสาเหตุที่แตกต่างกันด้วย