ปลัดพลังงาน เเจงเเล้ว หลังลือสะพัด บริษัทยักษ์ใหญ่ ลอบส่งน้ำมันให้กัมพูชา
ข่าวเศรษฐกิจ

ปลัดพลังงาน เเจงเเล้ว หลังลือสะพัด บริษัทยักษ์ใหญ่ ลอบส่งน้ำมันให้กัมพูชา

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน แถลงชี้แจงกรณีกระแสข่าวการส่งออกน้ำมันจากประเทศไทยไปยังกัมพูชา โดยยืนยันอย่างชัดเจนว่า ไม่มีการส่งออกน้ำมันจากไทยไปยังกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางเรือ ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ตรวจสอบข้อมูลร่วมกับผู้ค้าน้ำมัน กรมศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด

นายประเสริฐ ระบุว่า กรณีพื้นที่ ด่านช่องเม็ก ที่ถูกนำมาเชื่อมโยงในข่าวนั้น แท้จริงแล้วเป็นการขนส่งน้ำมันจากประเทศไทยไปยัง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ไม่ได้เป็นการส่งต่อไปยังกัมพูชา โดยปริมาณการขนส่งยังอยู่ในระดับปกติ เฉลี่ยวันละประมาณ 20 คัน และไม่ได้เพิ่มขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนของทุกปี สปป.ลาวจะมีการใช้น้ำมันมากกว่าช่วงอื่น เนื่องจากเป็นช่วงดำเนินกิจกรรมด้านเหมืองแร่ ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งน้ำมันที่ส่งออกไปส่วนใหญ่เป็น น้ำมันดีเซล โดยยืนยันว่าปลายทางการใช้น้ำมันเป็นภายใน สปป.ลาว และไม่มีการส่งต่อไปยังกัมพูชาแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานเตรียมหารือร่วมกับ สมช. กรมศุลกากร และหน่วยงานของ สปป.ลาว เพื่อกำหนด กลไกตรวจสอบเพิ่มเติม ให้เกิดความมั่นใจว่าน้ำมันที่ส่งออกไปจะถูกนำไปใช้ในประเทศลาวจริง เพื่อให้สามารถเปิดด่านช่องเม็กสำหรับการขนส่งน้ำมันได้อย่างต่อเนื่อง

นายประเสริฐ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของ สปป.ลาว ได้มีหนังสือถึงกระทรวงพลังงานของไทย แจ้งว่าเริ่มได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำมัน ซึ่งมีความจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและประเทศ โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน รัฐมนตรีของ สปป.ลาว จะเดินทางมาหารือกับกระทรวงพลังงาน เพื่อร่วมกันพิจารณากลไกการยืนยันปลายทางการใช้น้ำมัน และขอความร่วมมืออย่างชัดเจนว่าจะ ไม่มีการลักลอบขนส่งไปยังกัมพูชา

เมื่อสอบถามถึงกรณีที่ หอการค้าสหรัฐอเมริกาในประเทศกัมพูชา ส่งแถลงการณ์ถึงอุปทูตสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกัมพูชา เพื่อขอให้เข้าแทรกแซงกรณีไทยสกัดการขนส่งสินค้าและน้ำมันทางทะเลไปยังกัมพูชา นายประเสริฐ ระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานในประเด็นดังกล่าว พร้อมย้ำว่ากัมพูชาสามารถจัดหาน้ำมันจากประเทศอื่นได้ เช่น เวียดนาม จีน หรือสิงคโปร์ ไม่ได้จำเป็นต้องพึ่งพาน้ำมันจากไทยเพียงประเทศเดียว

ส่วนกระแสข่าวลือที่มีการอ้างว่าบริษัทเอกชนรายใหญ่ของไทยส่งน้ำมันไปยังกัมพูชานั้น นายประเสริฐ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากการส่งออกน้ำมันต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบจากกรมศุลกากร หากเป็นการขนส่งทางเรือก็ต้องผ่านกรมเจ้าท่า รวมถึงผู้ค้าน้ำมันต้องรายงานปลายทางการจำหน่ายอย่างชัดเจน ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบข้อมูลผิดปกติ พร้อมขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณและระมัดระวังข่าวปลอม

สำหรับปริมาณการส่งออกน้ำมันไปยัง สปป.ลาว นายประเสริฐ ระบุว่า โดยรวมอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านลิตรต่อเดือนสำหรับน้ำมันดีเซล และ กว่า 20 ล้านลิตรต่อเดือนสำหรับน้ำมันเบนซิน ขณะที่การส่งออกผ่านด่านช่องเม็กอยู่ที่เฉลี่ยเดือนละประมาณ 15 ล้านลิตร และอาจเพิ่มเป็นราว 18 ล้านลิตรต่อเดือน ในช่วงปลายปีซึ่งเป็นฤดูทำเหมือง

เมื่อถูกถามถึงสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ว่ามีผลให้การส่งออกน้ำมันผ่านด่านช่องเม็กเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายประเสริฐ ยืนยันว่า ไม่มี ยังคงเป็นปกติ