เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2568 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานพระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 27 และมาตรา 40 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้เพื่อเป็นการยกระดับการคุ้มครองลูกจ้างซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมีความมั่นคงในการทำงานและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
1. สิทธิลาคลอดบุตร เพิ่มเป็น 120 วัน
วันลาคลอดสูงสุด มาตรา 4 แก้ไขมาตรา 41 กำหนดให้ลูกจ้างหญิงมีครรภ์มีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตร ครรภ์หนึ่งไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบวัน (120 วัน) หรือตามจำนวนวันที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ค่าจ้างระหว่างลา: มาตรา 7 แก้ไขมาตรา 59 กำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ในวันลาคลอดตามมาตรา 41 วรรคหนึ่ง เท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกินหกสิบวัน (60 วัน) หรือตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา (ส่วนที่เหลือสามารถใช้สิทธิจากประกันสังคมตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง)
2.สิทธิลาต่อเนื่องเพื่อเลี้ยงดูบุตรที่ป่วย ลาเพิ่ม 15 วัน มาตรา 5 เพิ่มวรรคสี่ของมาตรา 41 อนุญาตให้ลูกจ้างหญิงที่ใช้สิทธิลาคลอดแล้ว มีสิทธิลาต่อเนื่องเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้อีก ไม่เกินสิบห้าวัน (15 วัน) ในกรณีที่บุตรมีภาวะการเจ็บป่วยที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน มีความผิดปกติ หรือมีภาวะความพิการ โดยต้องแสดงใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันประกอบการลา
3.สิทธิ “พ่อ” ลาช่วยภรรยาคลอดบุตร
ลาได้ 15 วัน: มาตรา 6 เพิ่มมาตรา 41/1 กำหนดให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อช่วยเหลือคู่สมรสซึ่งคลอดบุตร ครรภ์หนึ่งได้ไม่เกินสิบห้าวัน (15 วัน) โดยใช้สิทธิก่อนหรือในวันที่ลา ภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันที่คลอดบุตร (สิทธิการได้รับค่าจ้างระหว่างลาจะถูกกำหนดไว้ในมาตราอื่น)
4.คุ้มครอง “ลูกจ้างจ้างเหมาบริการ” ในหน่วยงานรัฐ
เทียบเท่าลูกจ้าง: มาตรา 3 เพิ่มมาตรา 4/1 กำหนดให้กรณีที่หน่วยงานของรัฐ (เช่น ราชการส่วนกลาง, ภูมิภาค, ท้องถิ่น, รัฐวิสาหกิจ, องค์การมหาชน) จ้างบุคคลธรรมดาในลักษณะ จ้างเหมาบริการ หรือลักษณะเดียวกัน โดยมีการควบคุม กำกับ ดูแลการทำงาน หน่วยงานที่จ้างต้องดำเนินการให้บุคคลดังกล่าวได้รับสิทธิไม่น้อยกว่ากฎหมายคุ้มครองแรงงาน
สิทธิที่ต้องได้รับ: ได้แก่ ค่าตอบแทนการทำงาน วันหยุดประจำสัปดาห์ วันหยุดตามประเพณี วันหยุดพักผ่อนประจำปี วันลาป่วย วันลาคลอด วันและเวลาทำงาน เวลาพัก ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
เขตอำนาจศาล: บรรดาคดีที่เกิดจากข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ตามมาตรานี้ ให้อยู่ใน เขตอำนาจของศาลแรงงาน