นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเตือนประชาชนให้ใช้จ่ายสิทธิคนละครึ่งพลัส ครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. 68 เวลา 23.00 น. หากพ้นเวลาดังกล่าว จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิในโครงการฯ ทันที
นอกจากนี้ ในวันที่ 7 พ.ย. 68 เป็นวันแรกที่ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Grab Lineman Robinhood และ ShopeeFood โดยต้องเริ่มการใช้สิทธิผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง ก่อนจะเชื่อมโยงไปยัง Food Delivery Platform ที่ต้องการได้ต่อไป และสามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มได้ระหว่างเวลา 06.00-21.00 น. จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 68
สำหรับยอดการใช้สิทธิคนละครึ่งพลัส ณ วันที่ 6 พ.ย. 68 เวลา 17.00 น. มีผู้ใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส สำเร็จแล้วกว่า 18.91 ล้านคน ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 19,358.60 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 9,796.76 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 9,561.84 ล้านบาท
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 68 ระหว่างเวลา 06.00 - 23.00 น. ผ่าน G-Wallet ในแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง โดยในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายให้เต็มสิทธิ 200 บาท สำหรับความคืบหน้าของการลงทะเบียนร้านค้าในโครงการฯ จากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 6 พ.ย. 68 เวลา 17.00 น. มีร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลแล้วจำนวน 868,148 ราย
สำหรับร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ว่า ปัจจุบันมีร้านค้าที่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้ามากดปุ่ม “ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข” ของโครงการฯ ในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เป็นจำนวนประมาณ 40,000 ราย ทำให้ยังไม่สามารถเริ่มต้นรับสิทธิจากประชาชนได้
ดังนั้น ขอให้ตรวจสอบและรักษาสิทธิของร้านค้าของท่านโดยเข้ามากดปุ่มดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ดี หากร้านค้ามีปัญหาข้อขัดข้องเกี่ยวกับการใช้งานแอปพลิเคชั่นถุงเงิน สามารถติดต่อธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ต่อไป
ข้อมุล คนละครึ่งพลัส