วันที่ 12 กันยายน 2568 นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า กทพ. เตรียมเสนอแนวคิดจัดทำโปรโมชันลดค่าผ่านทางพิเศษ (ทางด่วน) 50% สำหรับผู้ใช้บัตร Easy Pass ในการชำระค่าผ่านทางทุกด่าน ทุกสายทาง โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ระบบ Easy Pass แทนการจ่ายเงินสดมากขึ้นและช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บเงิน
ปัจจุบันมีผู้ใช้ทางด่วน 8 สายทาง รวมประมาณ 2 ล้านคนต่อวัน ในจำนวนนี้มีผู้ถือบัตร Easy Pass อยู่ราว 2 ล้านใบ แต่มีการใช้งานจริงเพียง 1 ล้านใบเท่านั้น กทพ. ตั้งเป้าว่าหากมีการจัดโปรโมชันนี้ จะสามารถเพิ่มสัดส่วนการใช้งานของบัตร Easy Pass ได้อีกประมาณ 3%
แนวคิดดังกล่าวจะถูกเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. พิจารณาในช่วงปลายเดือนกันยายน 2568 โดยในเบื้องต้น โปรโมชันลดค่าผ่านทาง 50% จะไม่ได้ใช้ทุกวัน แต่จะจำกัดเฉพาะวันพิเศษ เช่น วันเกิดของผู้ถือบัตร หรือวันครบรอบของ กทพ. โดยจะทดลองให้สิทธิ์ส่วนลดเพียง 1 วันก่อน หากผลตอบรับดี อาจมีการเพิ่มจำนวนวันในอนาคต แต่หากไม่ได้รับความนิยมก็จะไม่ดำเนินการต่อ
ก่อนหน้านี้ กทพ. เคยจัดโปรโมชันลดค่าผ่านทาง 5% เป็นระยะเวลา 30 วัน พบว่ารายได้หายไปประมาณ 700 ล้านบาท แต่จำนวนผู้ใช้บัตร Easy Pass เพิ่มขึ้นเพียง 1% จึงเห็นว่าจำเป็นต้องออกแบบโปรโมชันใหม่ที่มีแรงจูงใจมากขึ้น
นายสุรเชษฐ์ ระบุเพิ่มเติมว่า กทพ. ไม่สามารถให้ส่วนลด 50% ทุกวันได้ เนื่องจากจะกระทบต่อรายได้รวมถึงประมาณ 5,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่คณะกรรมการ กทพ. ไม่สามารถอนุมัติได้ จึงจำเป็นต้องใช้แนวทางยิงลูกโดด หรือจัดส่วนลดเฉพาะบางวัน โดยการประเมินเบื้องต้นระบุว่า หากจัดโปรโมชันลด 50% เป็นระยะเวลา 1 วัน จะใช้เงินชดเชยประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวจะนำมาจากดอกเบี้ยที่ กทพ. ได้รับจากเงินสะสมที่ประชาชนเติมไว้ในบัตร Easy Pass ซึ่งขณะนี้มีอยู่ราว 100 ล้านบาท
ในการชดเชย 20 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็น 40% หรือประมาณ 8 ล้านบาท ชดเชยให้แก่บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานทางด่วน 3 เส้นทาง ส่วนอีก 60% เป็นของ กทพ.
กทพ. ยังตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนผู้ใช้ Easy Pass จากปัจจุบันประมาณ 55% ของผู้ใช้ทางด่วนทั้งหมด ให้เพิ่มขึ้นเป็น 70% ภายใน 2 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนขยายช่อง Easy Pass จากเดิม 40% เป็น 70% ของช่องเก็บเงินทั้งหมด หากไม่สามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้ได้ ช่อง Easy Pass ที่เพิ่มขึ้นจะไม่ได้ใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพและปัญหาการจราจรบริเวณหน้าด่านจะยังคงอยู่
ในประเด็นอื่น นายสุรเชษฐ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการลดค่าผ่านทางช่วงงามวงศ์วาน-พระราม 9 จากเดิม 90 บาท ให้เหลือไม่เกิน 50 บาทตลอดสาย ว่าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ซึ่งต้องรอการพิจารณาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่
ส่วนโครงการระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) บนทางด่วน นายสุรเชษฐ์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการเพิ่มเติม