เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2568 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) มีมติเห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกร สำหรับปีการผลิต 2568/69 ทั้งนาปีและนาปรัง โดยรัฐบาลจะให้การช่วยเหลือชาวนาในอัตราไร่ละ 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 10 ไร่ต่อราย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงและราคาข้าวตกต่ำ

สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับเงินช่วยเหลือหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิ์เสร็จสิ้น โดยคาดว่าเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ขณะที่เกษตรกรที่ทำนาปีจะได้รับเงินช่วยเหลือในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีงบประมาณ 2569

ขณะเดียวกันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เชิญชวนให้เกษตรกรทั่วประเทศเร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถดำเนินการผ่านหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้หลายช่องทาง เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิ์และมาตรการช่วยเหลือได้อย่างสะดวก โดยสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ 2 วิธี ดังนี้

วิธีที่ 1 ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ เกษตรกรรายเดิมที่ทำแปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เข้าร่วม รวมถึงผ่านผู้นำชุมชน หรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ขณะที่เกษตรกรรายใหม่ หรือผู้ที่เพิ่มแปลงใหม่ ต้องแจ้งข้อมูลโดยตรงที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่แปลงเกษตร

วิธีที่ 2 ดำเนินการด้วยตนเอง ผ่านแอปพลิเคชัน Farmbook Application หรือเว็บไซต์ efarmer.doae.go.th

สำหรับเกษตรกรที่ติดต่อสำนักงานเกษตรอำเภอโดยตรง จะต้องใช้เอกสารบัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาหลักฐานการถือครองที่ดิน ส่วนเกษตรกรรายใหม่ หรือรายเดิมที่เพิ่มแปลง ต้องนำเอกสารสิทธิ์การใช้ที่ดินมาประกอบด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถบันทึกและปรับปรุงข้อมูลได้อย่างถูกต้องครบถ้วน

ทั้งนี้ นายอนุกูล ได้ย้ำว่า ข้อมูลทะเบียนเกษตรกรถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐ ทั้งในด้านการเยียวยาผู้ประสบภัย การสนับสนุนปัจจัยการผลิต และการส่งเสริมเทคโนโลยีทางการเกษตร เกษตรกรจึงควรขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลเพาะปลูกนาปี ควรแจ้งข้อมูลภายใน 15 วันหลังเพาะปลูก และไม่เกิน 60 วันก่อนเก็บเกี่ยว ส่วนพืชอายุยืน เช่น ไม้ผลและไม้ยืนต้น ควรขึ้นทะเบียนไม่น้อยกว่า 30 วันหลังปลูก เพื่อให้สามารถใช้สิทธิ์เข้ารับการสนับสนุนและบริการต่าง ๆ จากภาครัฐได้อย่างครบถ้วน