วันที่ 22 ธ.ค. 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.1 บก.ปอท. ร่วมกันจับกุม นายเอง โจฯ (MR. ANG JOO) สัญชาติมาเลเซีย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 917/2567 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2567 ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันมี ใช้ และนำเข้าเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตและใช้คลื่นความถี่ โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันประกอบกิจการโทรคมนาคมซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตแบบที่หนึ่ง โดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเดินเข้ามาไม่ยื่นรายการตามแบบที่กำหนดและไม่ผ่านการตรวจอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง สามารถจับกุมได้ที่ บริเวณบ้าน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

พฤติการณ์ โดยก่อนหน้านี้ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอท. ได้ทำการตรวจค้นและยึดเครื่องส่งสัญญาณมาจากอุปกรณ์ส่งคำสั่งผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ต เพื่อควบคุมสั่งการซิมการ์ด (GSM Gateways (Simbox)) จำนวน 4 เครื่อง (1 เครื่องสามารถใส่ซิมการ์ดได้จำนวน 32 ซิม) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ในการกระทำความผิด บริเวณคอนโดมีเนียม ย่านซอยลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้นำเครื่องซิมบ๊อกดังกล่าว คือ Mr.Kevin (นายเควินฯ) ชาวอินโดนีเซีย และน.ส.จิรนันท์ฯ สามีภรรยา ได้ที่วิลล่าหรูใจกลาง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และจากการสืบสวนขยายผลยังพบว่ามีนายเอง โจฯ ซึ่งเป็นคนมาเลเซีย เชื่อสายจีน เป็นนายจ้างในการสั่งการให้นำเครื่องซิมบ๊อก ดังกล่าวมาติดตั้งในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว และทำการติดตามจับกุม แต่ทราบว่าผู้ต้องหาดังกล่าวได้หลบหนีไปยังบริเวณเมืองปอยเปรต ประเทศกัมพูชาแล้ว

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. ได้รับแจ้งว่าพบ นายเอง โจฯ (MR. ANG JOO) สัญชาติมาเลเซีย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 917/2567 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2567 ได้หลบหนีเข้ามายังประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ หลังมีเหตุการณ์สงครามระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ที่บริเวณ แนวชายแดน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้จึงได้สนธิกำลังพร้อมหน่วยบูรณาการร่วม เพื่อเข้าทำการติดตามจับกุมตัว นายเอง โจ (MR.ANG JOO) ซึ่งยอมรับว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวจริง

และรับว่าเป็นเป็นคนสั่ง การให้นายเควินฯ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ เป็นคนนำเครื่อง Simbox มาวางตามจุดต่างๆในประเทศไทย โดยนายเอง โจฯ ให้การว่าเนื่องจากมีเหตุการณ์สงครามจึงได้หลบหนีจากประเทศกัมพูชา เข้ามายังประเทศไทย โดยนายเฮงฯ เป็นระดับสั่งการของแก็งแสกมเมอร์ มีหน้าที่เหมือนผู้จัดการดูแลพนักงานในออฟฟิศแสกมเซ็นเตอร์ ที่ตึกไป่ยิง Baiying เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา โดยทำหน้าที่ ทำตามคำสั่งจากนายอาเฉินฯ เป็นคนจีนอีกทอดหนึ่ง และยังมีออฟฟิศอีกแห่งอยู่ที่เมืองปอยเปรต ประเทศกัมพูชา ซึ่งในการส่งเครื่อง Simbox อุปกรณ์ GSM Gateway นางเฮงฯ ได้ส่งผ่านขนส่ง จากเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา มายังนายเควินฯ (Mr.Kevin) ที่อยู่ที่ประเทศไทย โดยนางเฮงฯ ค่าใช้จ่ายจะนำเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ USDT มาแลกแลกเป็นเงินบาท ผ่านร้านแลกผ่าน Huione pay และร้านแลกเงินใต้ดินอื่นๆ ก่อนที่จะโอนเงินสด มาเป็นค่าจ้าง ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเช่าห้องให้นายเควินฯ ต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามขยายผล ผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในครั้งนี้ต่อไป


ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน