จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้ดำเนินคดีกับนายวิชัย อายุ 48 ปี ชาว ต.แม่คำ อ.แม่จัน ในข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และการชิงทรัพย์นั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ หลังเกิดเหตุคนร้ายเข้าชิงทรัพย์นางสุขแก้ว อายุ 70 ปี มารดาของนายวิชัย เหตุเกิดวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น พบว่านางสุขแก้ว ซึ่งได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกได้ระบุว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ที่ชี้เป้าให้คนร้ายก่อเหตุคือนายวิชัย ซึ่งเป็นบุตรขายของตนเอง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2568 นางสุขแก้ว กล่าวว่า ตนมีอาชีพขายเนื้อที่ตลาดและวันเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 04.00 น. ตนได้เข็นล้อล่วงออกไปค้าขายตามปกติแต่หลังจากออกจากบ้านไปได้ไกลประมาณ 200 เมตร ได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขับขี่จักรยานเข้าประกบด้านข้างและใช้เท้าถีบตนจนล้มลง ก่อนที่คนร้ายจะลงไปทำร้ายและข่มขู่เอาเงินในกระเป๋าของตน ตนจึงควักออกมาให้คนร้ายประมาณ 1,700 บาท จากเงินที่อยู่ในกระเป๋าทั้งหมดประมาณ 17,600 บาท ซึ่งเป็นเงินที่จะนำไปซื้อเนื้อมาขาย ปรากฎว่า คนร้ายไม่ยอมตรงเข้ากระชากผมของตน และเอาศีรษะโขกกับผิวถนน 5-6 ที ทำให้ตนร้องขอความช่วยเหลือและแกล้งสลบ คนร้ายจึงฉกเอาเงินทั้งหมด แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

นางสุขแก้ว กล่าวอีกว่า ตนมารู้ภายหลังว่าคนร้ายได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปสอบปากคำและแขวนคอเสียชีวิตไปแล้ว โดยเขาเป็นเพื่อนสนิทกับลูกชายของตน ถึงขั้นนั่งดื่มกินเหล้าด้วยกันเป็นประจำ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจหลักฐานแล้วก็ทราบว่า แท้ที่จริงบุตรชายตนเป็นคนชี้เป้าให้กับคนร้ายให้ก่อเหตุ จึงทำให้ตนเสียใจอย่างมาก จึงสอบถามลูกชายว่าเหตุใดจึงทำเช่นนี้ ซึ่งเขาก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แต่เพราะกินเหล้าด้วยกันจนมึนเมาทำให้ไม่รู้สึกตัวว่า ไปชี้เป้าให้คนร้ายก่อเหตุ

อย่างไรก็ตาม จากรายงานข่าวแจ้งว่าหลังเกิดเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่จัน ได้สอบปากคำ ตรวจกล้องวงจรปิด ฯลฯ จนสงสัยว่า ผู้ที่อาจจะก่อเหตุคือนายสุรชัย อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของนายวิชัย จึงเชิญตัวไปสอบปากคำและจัดเก็บ DNA ก่อนให้กลับบ้านได้ แต่ปรากฎว่าเช้าวันที่ 19 ก.ย. นายสุรชัยได้แขวนคอตัวเองเสียชีวิตภายในของบ้านตัวเอง คาดว่าเพราะเกิดความเครียด

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือพบว่า ผู้เสียชีวิตนอกจากจะคบหากับนายวิชัยแล้ว ยังได้ติดต่อกันทางออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุชิงทรัพย์หลายครั้ง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบรถจักรยานยนต์คล้ายรถของนายสุรชัยขับอยู่บนถนนที่น่าสงสัยหลายจุด จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลและจับกุมตัวนายวิชัยดำเนินคดีดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงราย รายงาน