เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ของวันที่ 10 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมได้ดำเนินการลาดตระเวนทั้งทางเรือและเดินเท้าในพื้นที่เขตอุทยานฯ ไปจนถึงพื้นที่ป่าห้วยน้ำขุ่น ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ในเขตป่าต้นน้ำชั้น 1A และเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบชายฉกรรจ์ 3 รายแบกเป้สัมภาระ เดินอยู่บริเวณป่าปิล๊อกคี่ หมู่ 4 ตำบลปิล๊อก ลักษณะต้องสงสัยคล้ายขบวนการร่อนแร่ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและควบคุมตัวไว้ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายวัย อายุ 35 ปี นายไม้ อายุ 35 ปี และนายจ่อ อายุ 32 ปี

ทั้งสามเป็นชาวเมียนมา อาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ

ภายในสัมภาระพบอุปกรณ์ร่อนแร่ทองคำ อุปกรณ์ยังชีพ เปล ฟลายชีท ไฟฉายและมีดเหน็บ จากการสอบถาม ทั้งสามยอมรับว่ากำลังเดินทางเข้าป่าร่อนแร่ทองคำในพื้นที่อุทยานทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลางและนำตัวไปทำบันทึกที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ปช.4 (ห้วยเขย่ง)

ต่อมา เวลา 13.20 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังซุ่มรอบพื้นที่เดิม พบชายอีกหนึ่งรายเดินเข้ามาในพื้นที่ต้องสงสัยลักษณะเดียวกัน จึงแสดงตัวจับกุม ทราบชื่อภายหลังคือ นายอ้วน อายุ 30 ปี เป็นชาวเมียนมา อาศัยอยู่หมู่ 1 ตำบลบ้องตี้ อำเภอไทรโยค โดยตรวจพบอุปกรณ์ร่อนแร่ ไฟฉาย มีดเหน็บและของใช้ส่วนตัว นายอ้วนยอมรับว่าเดินทางมาในจุดเดียวกับผู้ถูกจับก่อนหน้านี้เพื่อร่อนหาแร่ทองคำเช่นกัน

จากนั้น เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 11 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ดำเนินการซุ่มโป่งบริเวณเดิมอีกครั้งและสามารถจับกุมชายต้องสงสัยได้อีกหนึ่งราย คือ นายเปีย อายุ 29 ปี เป็นชาวเมียนมา อาศัยอยู่หมู่ 4 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ พร้อมอุปกรณ์ร่อนแร่ ไฟฉาย มีดเหน็บ และของใช้สำหรับยังชีพ ซึ่งนายเปียก็ให้การยอมรับว่าเดินทางเพื่อเข้าป่าร่อนหาแร่ทองคำจริง

หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาแก่ผู้ถูกจับทั้ง 5 รายว่า เป็นการกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ และลักลอบเข้าพื้นที่อุทยานฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือเป็นความผิดเกี่ยวกับการป่าไม้

นอกจากนี้ พื้นที่ที่ผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าไปยังเป็นเขตที่มีประกาศจากนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ห้ามสำรวจ ขุด หรือทำเหมืองแร่ในพื้นที่โดยเด็ดขาด เว้นแต่ได้รับอนุญาต

ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายให้การยอมรับ เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการ เปรียบเทียบปรับ (ปรับเป็นพินัย) และปล่อยตัวไป พร้อมรายงานเหตุการณ์ให้ผู้บริหารในพื้นที่รับทราบตามขั้นตอน

ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาญจนบุรี รายงาน