สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.4 ได้สืบสวนพบบัญชีเฟซบุ๊กแฟนเพจ ชื่อ ซื้อขายเลื่อยยนต์ ได้ลักลอบขายเลื่อยโซ่ยนต์ทางออนไลน์โดยผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออำนาจศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายค้นได้สำเร็จ
กระทั่งวันที่ 8 ส.ค.68 ตำรวจไซเบอร์ นำโดย พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 สอท.4 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสนธิกำลังร่วมกับตำรวจป่าไม้โดย กก.4 บก.ปทส. นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.7 ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่
จากการเข้าตรวจค้น พบนายเอ พร้อมด้วยของกลางเป็น เลื่อยโซ่ยนต์ ยี่ห้อ สติล รุ่น 070 จำนวน 7 เครื่อง, แผ่นบังคับเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 16 แผ่น และโซ่เลื่อยยนต์จำนวน 12 เส้น นอกจากนี้ ยังตรวจค้นพบอาวุธปืนผิดกฎหมายได้แก่ อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์อัดลม จำนวน 6 กระบอก ประดับอยู่บนฝาผนังบ้าน, ปืนสั้นอัดลม จำนวน 1 กระบอก พร้อมทั้งลูกกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบ พบว่า ของกลางทั้งอาวุธปืนและเลื่อยโซ่ยนต์นั้นไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมายแต่อย่างใด สอบถามนายเอ รับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นคนชอบสะสมอาวุธปืน จึงได้รับจำนำอาวุธปืนและหาซื้ออาวุธปืนไทยประดิษฐ์ตามรายการดังกล่าวมาจากร้านค้าของเก่าจำนวนหลายกระบอก เพื่อเอาไว้แขวนประดับฝาบ้าน ส่วนเลื่อยโซ่ยนต์นั้นตนรับซื้อมาจากร้านค้าของเก่าและรับซื้อมาจากชาวบ้าน เพื่อนำมาซ่อมแซมและปรับปรุงให้สามารถใช้งานได้ แล้วจึงนำไปลงประกาศขายตามเฟซบุ๊กแฟนเพจ หรือร้านค้าทางสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อหารายได้เสริม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าเลื่อยโซ่ยนต์ดังกล่าวมีขนาดกำลังเครื่องจักรกลต้นกำลัง หรือ ขนาดความยาวแผ่นบังคับโซ่ยาวเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงได้ตรวจยึดเป็นของกลางและแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ ซ่อมแซมเลื่อยโซ่ยนต์เป็นธุรกิจเพื่อสินจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์ ควบคุมตัวตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าวกรุงเทพมหานคร รายงาน