คึกคัก! ชาวเมืองลับแล ร่วมสืบสานประเพณีค้างบูยา อุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ พร้อมส่องเลขเด็ด ก่อนวันหวยออก
เสี่ยงดวง - หวย

คึกคัก! ชาวเมืองลับแล ร่วมสืบสานประเพณีค้างบูยา อุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ พร้อมส่องเลขเด็ด ก่อนวันหวยออก

วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดอนสัก ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ชาวเมืองลับแล ต่างพากันนำฉลากฉลอมมาร่วมประเพณีค้างบูยา และ สลากชะลอม กันอยากคึกคัก จนล้นศาลาการเปรียญของทางวัด โดยมีการนำฉลากฉลอมจากชาวบ้านแต่ละชุมชนต่างๆ มาถวายพระสงฆ์ เพื่อเป็นการทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเป็นวิถีชุมชนชาวเมืองลับแลที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น โดยจะจัดขึ้นในช่วงเข้าพรรษา ชาวลับแลร่วมอนุรักษ์สืบสานมานานกว่า 100 ปี โดยคณะครูยังได้พานักเรียนมาร่วมเรียนรู้ประเพณีดั้งเดิมของบรรพบุรุษอีกด้วย

นายมานพ นาคหมู ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านนารี กล่าวว่า ค้างบูยา เป็นประเพณีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของ อ.ลับแล แสดงถึงสายสัมพันธ์และความสามัคคีระหว่างญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยโบราณและสืบทอดจนถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นประเพณีเก่าแก่ที่ชาวลับแลร่วมอนุรักษ์สืบสาน เป็นประเพณีทำบุญในช่วงเข้าพรรษา เพื่อถวายข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ คล้ายกับการทอดผ้าป่า ค้างบูยา มาจากก๊าง ที่แปลว่ากิ่ง และบูยาคือ การนำยาเส้นมามวน แขวนไว้ที่ก๊าง สมัยก่อนจะเน้นประดับตกแต่งด้วยมวนบุหรี่จำนวนมาก ปัจจุบันลดปริมาณลงแล้วแต่ยังพอมีให้เห็น และเปลี่ยนเป็นของกินของใช้ห้อยแขวน แต่ละชั้นจะประดับตกแต่งให้ดูสวยงาม เปรียบเหมือนต้นกัลปพฤกษ์ ด้านล่างจะเป็นกระจาด ใส่พืชไร่ พืชสวน ผลผลิตในชุมชนของชาวลับแล ทุเรียน ลางสาด ลองกอง กล้วย ฟัก ฟักทอง เป็นต้น

บนยอดค้างประดับด้วยดอกไม้กระดาษ และตัวหงส์ มีธนบัตรห้อยตามความสวยงาม ส่วน สลากชะลอม สานจากไม้ไผ่ กรุด้วยใบตอง เพื่อไม่ให้มองเห็นของข้างใน ใส่ขนมโบราณขนมแหนบ ขนมเทียน ขนมแตง ขนมพี่ขนมน้อง และใส่ข้าวปลาอาหารแห้ง ผลไม้ หมากพลู พืชผักสวนครัวอย่างละนิดละหน่อยแต่มี ครบทุกอย่าง โดยแต่ละครอบครัวจะทำชะลอมให้เกินจำนวนสมาชิกในครอบครัว อย่างน้อย 1 ใบ เพราะเชื่อว่า มีเหลือกินเหลือเก็บ

ประเพณีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ เจ้า กรรมนายเวร ที่พุทธศาสนิกชนอำเภอลับแลสืบทอดมาแต่บรรพบุรุษ ถือเป็นการทำบุญช่วงเทศกาลเข้าพรรษา หรือใกล้วันออกพรรษา"หลังถวายพระสงฆ์ตามประเพณีแล้ว ชะลอมส่วนหนึ่งจัดแบ่งให้กับพระสงฆ์ที่นิมนต์มา ที่เหลือจัดให้กับโรงเรียนต่างๆ เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ และมอบให้กับเรือนจำ รวมไปถึงพื้นที่ประสบภัย เนื่องจากของในชะลอมเป็นสิ่งของที่สามารถรับประทานได้ ส่วนค้างบูยา จะนำถวายให้กับวัดต่างๆ ที่นิมนต์พระสงฆ์มา เพื่อนำจตุปัจจัยใช้ในการทำนุบำรุงศาสนสถาน ค่าน้ำและสมทบถวายพระสงฆ์ที่อาพาธ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวลับแลยึดถือปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งในระหว่างการประกอบพิธี ได้มีการนำขนมแหนบ ขนมเทียน ผลไม้ตามฤดูกาล จัดใส่ถาด มาวางไว้กลางแจ้ง พร้อมจุดธูปบอกกล่าวเทพเทวาอารักษ์เจ้าวัดเจ้าวา ได้มาร่วมอนุโมทนาและอนุโมทนา แต่ด้วยในระหว่างการประกอบพิธี ฝนได้เกิดจกมาอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านจึงได้นำร่มมากางเพื่อป้องกันฝน และสายมูก็ไม่พลาดที่จะส่องเลขเด็ด ซึ่งพรุ่งนี้จะเป็นวันฉลากกินแบ่งรัฐบาลจะออก สายมูจึงได้นำธูปเสี่ยงโชคมาจุดกลางที่โล่งแจ้งพร้อมกับเครื่องบูชาต่างๆ พร้อมกับตั้งจิตอธิฐานขอโชคกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพเทวาอารักษ์เจ้าวัดเจ้าวา หากผลฉลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกเลขอะไร ก็ขอให้เลขธูปปรากฏเป็นตัวเลขนั้น ภายหลังจากอธิฐานเสร็จรอจนธูปหมด ปรากฏเป็นตัวเลข 233 สายมูต่างจะนำเลขไปเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 1 กันยายน ที่จะถึงนี้

สำหรับวัดดอนสักตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2275 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2421 ชื่อของวัดมาจากการสร้างวิหารด้วยไม้สักเพียงต้นเดียวที่ขึ้นอยู่บนเนินสูงตามธรรมชาติ กล่าวกันว่า วัดนี้รอดพ้นจากการถูกพม่าเผาทำลายเพราะมีเสาหงส์ จึงเว้นไว้ไม่เผา แต่ใช้ดาบฟันบานประตูวิหารเพื่อเป็นเครื่องหมายว่าได้ทำการทำลายลงแล้ว มีร่องรอยให้เห็นจนถึงทุกวันนี้ ส่วนเสาหงส์ที่กล่าวถึงเป็นเสาไม้สัก แกะสลักเป็นรูปหงส์อยู่บนยอดเสา ซึ่งปัจจุบันผุพังหักลงไปแล้ว

วิหารของวัดมีบานประตูเป็นคู่บานประตูไม้จำหลักโบราณ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีลวดลายสวยงาม สำหรับวิหารวัดดอนสักมีลักษณะศิลปะเชียงแสนปนสุโขทัย ตัวเสาประตูเป็นลายกนกใบเทศสลับลายกระหนกก้ามปู บานประตูเป็นไม้แกะสลักทั้งบาน รูปลายกนกก้านขด มีรูปสัตว์หิมพานต์แทรกอยู่ในลวดลายกระหนกต่าง ๆ มีความอ่อนช้อยสวยงาม โดยบานซ้ายและขวานั้นไม่เหมือนกัน แต่เมื่อปิดบานแล้วลวดลายมีความลงตัวเข้ากันได้สนิท

ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุตรดิตถ์ รายงาน