เว็บไซต์ สภากาชาด ได้เผยบทความของแมลงก้นกระดก ระบุว่า แมลงก้นกระดก (Rove beetles) หรือที่เรียกกันว่า ด้วงก้นกระดก ด้วงก้นงอน หรือ ด้วงปีกสั้น เป็นแมลงขนาดเล็ก มีความยาวประมาณ 7-8 มิลลิเมตร ลำตัวมีสีดำสลับส้มเป็นปล้องๆ จุดเด่นของแมลงชนิดนี้คือเมื่อเกาะแล้วจะมีลักษณะเหมือนก้นกระดกขึ้นมา มักพบในช่วงฤดูฝน โดยเข้ามาตอมหลอดไฟในบ้านและร่วงหล่นตามพื้น

สาเหตุของโรค

เกิดจาก แมลงก้นกระดก ปล่อยพิษที่มีชื่อว่า พิเดอริน (Pederin) ซึ่งมีลักษณะเป็นกรดที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ทำให้เกิดอาการแสบร้อนเป็นรอยไหม้หลังจากสัมผัสพิษประมาณ 8-12 ชั่วโมง โดยส่วนมากมักเกิดจากการสัมผัส ปัด หรือบี้ตัวแมลง จนทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง

อาการของโรค

สำหรับผู้ป่วยที่โดนกรดจากแมลงก้นกระดก จะรู้สึกปวดแสบปวดร้อน พบรอยไหม้ และตุ่มน้ำเป็นเป็นผื่น ที่มีลักษณะคล้ายเป็นเริมหรืองูสวัด แต่จะพบเป็นรอยยาว ไม่เป็นกระจุก มักพบรอยบริเวณนอกเสื้อผ้า ในบางคนที่แพ้พิษอาจมีอาการรุนแรง เช่น พุพอง คลื่นไส้อาเจียน หรือเริ่มมีไข้ แต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

วิธีการรักษา

สำหรับการรักษา เบื้องต้นเมื่อโดนพิษจากแมลงก้นกระดก ให้รีบล้างด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือใช้น้ำเกลือสำหรับล้างแผลล้างทันที แต่หากเกิดตุ่มน้ำและรอยแดงขึ้นแล้วสามารถทายาเพื่อรักษารอยแดงซึ่งจะหายไปเองประมาณ 2-3 วัน แต่หากมีอาการรุนแรงเนื่องจากแพ้พิษให้รีบพบแพทย์ แพทย์จะใช้ยาประเภทสเตียรอยด์ในการรักษา ส่วนรอยดำที่เกิดขึ้นจะค่อยๆ จางและหายไปเอง ไม่เป็นแผลเป็น

วิธีป้องกัน

เราสามารถป้องกันแมลงก้นกระดกด้วยการปิดหน้าต่างและประตูให้สนิท เนื่องจากแมลงประเภทนี้ชอบเข้ามาเล่นแสงไฟในเวลากลางคืน และตรวจเช็คบริเวณที่นอนเสมอว่าไม่มีแมลงอยู่ ที่สำคัญหากพบแมลงก้นกระดกห้ามสัมผัสโดยการปัด หรือบดขยี้ ควรใช้วิธีเป่า หรือสะบัดออก

และเว็บไซต์ homepro เผยวิธีไล่แมลงก้นกระดก ไว้ดังนี้

1. ปิดช่องทางการเข้าและจัดการสภาพแวดล้อม

สิ่งแรกที่ควรทำคือการปิดกั้นไม่ให้แมลงเข้ามาในบริเวณบ้านได้ การปิดประตูและหน้าต่างให้สนิท โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่แมลงออกมาหากินในเวลากลางคืน จะช่วยลดโอกาสการเข้ามาของแมลงได้เป็นอย่างดี ควรติดตั้งมุ้งลวดที่มีความละเอียดสูงเพื่อเป็นปราการป้องกันอีกชั้นหนึ่ง

การหมั่นทำความสะอาดที่อยู่อาศัยเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญ อย่าปล่อยให้มีเศษขยะ เศษพืช ใบไม้แห้ง หรือบริเวณที่มีความชื้นสะสมรอบบ้าน เพราะสิ่งเหล่านี้คือแหล่งหลบซ่อนและแหล่งอาหารชั้นดีของแมลงก้นกระดก นอกจากนี้ ควรกำจัดแหล่งอาหารอื่น ๆ เช่น การนำถุงขยะไปทิ้งให้ห่างไกลจากตัวบ้านโดยเร็วที่สุด

2. การจัดการแสงไฟเพื่อไม่ให้ดึงดูดแมลง

ลดแสงไฟ: ลดการเปิดไฟภายนอกและภายในบ้านในช่วงกลางคืนให้น้อยที่สุด เนื่องจากแมลงก้นกระดกชอบเล่นแสงไฟ

เปลี่ยนหลอดไฟ: พิจารณาเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟที่มีสีเหลือง หรือหลอดไฟ Warm Light เพราะแสงสีขาวจะดึงดูดแมลงมากกว่า

3. ใช้พืชธรรมชาติเพื่อช่วยในการไล่

พืชบางชนิดมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยไล่แมลงได้ตามธรรมชาติ การปลูกดอกไพรีทรัม (Pyrethrum) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สารในดอกไพรีทรัมมีคุณสมบัติที่สามารถทำลายระบบประสาทของแมลง ซึ่งจะทำให้แมลงก้นกระดกสลบและตายลงได้ จึงสามารถนำมาปลูกแซมในสวน หรือบริเวณผักสวนครัวรอบบ้านได้เพื่อเป็นตัวช่วยในการป้องกัน