
พระเทพวชิรเวที เจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย แจงโดนกุข่าวประสบอุบัติเหตุขณะไปหาสีกา ยันข้อกล่าวหาอื่น ๆ โดนกลั่นแกล้งทั้งหมด
จากกรณีเพจเฟซบุ๊กหนึ่งได้มีการนำเสนอภาพอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งสีขาวประสบอุบัติเหตุ พร้อมข้อความว่า สัญญากันก่อนนะ...ถ้ารู้แล้วเหยียบไว้ อย่าบอกใคร! และข้อความประกอบในภาพว่า เจ้าคณะจังหวัด...(ขีดทับชื่อ) แอบขับรถมากะพระด้วยกันมาหาสีกาคนสนิท รถพลิกคว่ำไม่เป็นอะไร ปิดข่าว
ต่อมา มีสื่อนำเรื่องดังกล่าวไปนำเสนอพร้อมระบุว่า เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ของ จ.สุโขทัย รีบขับรถเก๋งกับอีกรูปเพื่อไปหาสีกาคนสนิท แต่ประสบอุบัติเหตุแต่ปิดข่าวไว้ รวมถึงมีชาวบ้านร้องเรียน ป.ป.ช.เรื่องยักยอกเงินวัดเข้าบัญชีตัวเองแต่โดนดองเรื่องไว้ , นำพระพุทธรูปออกจากวัดมหาธาตุราชวรวิหาร ศรีสัชนาลัย (วัดพระปรางค์) โดยไม่ปรึกษาชาวบ้านหรือไวยาวัจกรของวัดและยังให้สีกาเข้ามาหายามวิกาล
ล่าสุด พระเทพวชิรเวที เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรวิหาร (วัดพระปรางค์) และเจ้าคณะจังหวัดสุโขทัย เปิดเผยต่อสื่อมวลชนยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2567 ขณะเดินทางไปร่วมงานนิทรรศการพระเครื่องที่โรงแรมไพลิน โดยมีลูกศิษย์เป็นผู้ขับรถ แต่เมื่อถึงบริเวณบ้านท่าเกษม อ.สวรรคโลก รถเกิดพวงมาลัยล็อกจนเสียหลักชนเสาไฟฟ้า โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง ยืนยันไม่ได้ไปหาสีกาตามที่มีการกล่าวหา
ส่วนกรณีร้องเรียนเรื่องยักยอกเงินวัดนั้น พระเทพวชิรเวทีระบุว่าเป็นเรื่องเก่าตั้งแต่สมัยเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองโว้ง มีการนำเงินวัดไปฝากไว้ที่สหกรณ์ตามมติของคณะกรรมการวัด ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบแล้วไม่พบความผิด
เรื่องที่มีสีกาเข้าไปหายามวิกาลก็ไม่เป็นความจริง โดยพระลูกวัดสามารถยืนยันได้ เพราะหลังทำวัตรเย็นก็ปิดกุฏิทุกวัน สำหรับประเด็นย้ายพระพุทธรูปในพระอุโบสถ เจ้าคณะจังหวัดชี้แจงว่า ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรและย้ายกลับตามความต้องการของชาวบ้านแล้ว ส่วนเรื่องหอระฆังเก่าที่ถูกรื้อ เนื่องจากทรุดโทรมอาจเป็นอันตราย จึงดำเนินการแทนที่ด้วยหอระฆังใหม่
เจ้าคณะจังหวัดสุโขทัยระบุว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดน่าจะมาจากกลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์และประเด็นอำนาจในวงการสงฆ์ พร้อมขอความเป็นธรรมจากสังคม และฝากกรรมการวัดพิจารณาดำเนินการตามสมควรหากจำเป็นต้องฟ้องร้อง
ทางด้าน ร.ต.อ.มงคล ทาเครือ ไวยาวัจกรอาวุโส เผยว่า รู้สึกไม่พอใจต่อการเสนอข่าวที่ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะตนทำงานร่วมกับพระเทพวชิรเวทีมานานกว่า 10 ปี และมั่นใจว่าเป็นพระนักพัฒนาและทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาโดยแท้จริง