อาสารักษาดินแดนและเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ระดมกำลังเข้าช่วยชีวิต เจ้าด้วนหูด่าง ช้างป่าเพศผู้ วัย 40 ปี น้ำหนักกว่า 5,000 กิโลกรัม ที่พลัดตกลงไปในบ่อน้ำเพื่อการเกษตรบนยอดเขาสูง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร นานข้ามวัน เจ้าหน้าที่ต้องใช้แบ็กโฮเปิดทางระบายน้ำและทำทางขึ้น ก่อนช้างจะเดินขึ้นจากบ่อได้อย่างปลอดภัยและหันมามองคล้ายจะขอบคุณก่อนเข้าป่าไป

นายณัฐวุฒิ ยอดอุดม อาสารักษาดินแดน (อส.) อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสายของวานนี้ (19 ก.ค. 68) นายอำเภอพะโต๊ะได้รับแจ้งจากกำนันตำบลพระรักษ์ ว่ามีช้างป่าเพศผู้ที่ชาวบ้านเรียกว่า เจ้าด้วนหูด่าง พลัดตกลงไปในสระเก็บน้ำของชาวบ้านและไม่สามารถขึ้นมาเองได้ จึงได้สั่งการให้กำลัง อส. พร้อมด้วยนายนิสิต ตระการภาสกุล หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (ขสป.) ควนแม่ยายหม่อน เข้าตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุอยู่บนยอดเขา สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 200 เมตร ภายในซอยห้วยพลู หมู่ที่ 5 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ ห่างจากถนนบ้านในโหมง พบช้างป่า หรือที่ชาวบ้านรู้จักในชื่อ พลายรุ่งทิวา หรือ เจ้าด้วนหูด่าง อายุประมาณ 40 ปี น้ำหนักราว 5,000 กิโลกรัม ตกลงไปในบ่อน้ำเพื่อการเกษตรของชาวบ้าน ซึ่งมีความกว้าง 5 เมตร ยาว 15 เมตร และลึกถึง 8 เมตร โดยบ่อดังกล่าวอยู่นอกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าควนแม่ยายหม่อน

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : ข่าวเด็ด ชุมพร

จากการสอบถามเจ้าของสวนทราบว่า ตนเข้ามาในสวนเมื่อวันที่ 18 ก.ค. และออกไปในตอนเย็น ซึ่งทุกอย่างเป็นปกติ จนกระทั่งกลับเข้ามาอีกครั้งเมื่อช่วงสายของวันที่ 19 ก.ค. จึงพบว่ามีช้างตกลงไปในบ่อน้ำ ด้วยสภาพที่อิดโรย หูซีด ปลายงวงซีด คาดว่าน่าจะอยู่ในน้ำมาเป็นเวลานาน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่ได้วางแผนการช่วยเหลือโดยการสูบน้ำออกจากบ่อ และประสานรถแบ็กโฮเข้าดำเนินการเปิดคันบ่อเพื่อระบายน้ำออกและทำทางขึ้นให้กับช้างป่า โดยเจ้าของสวนได้ให้ความยินยอมเต็มที่ในการขุดบ่อเพื่อช่วยเหลือชีวิตสัตว์ป่า เริ่มดำเนินการตั้งแต่เวลา 14.30 น. และภายในเวลา 15.00 น. ก็สามารถขุดเปิดคันสระได้สำเร็จ ทำให้ "เจ้าด้วนหูด่าง สามารถเดินขึ้นมาจากบ่อได้อย่างปลอดภัย

ก่อนจะเดินกลับเข้าป่า เจ้าด้วนหูด่างได้หยุดยืนนิ่งและหันมามองทางเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน คล้ายกับเป็นการแสดงความขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ ก่อนจะเดินลับหายเข้าไปในป่า โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่าเฝ้าติดตามจนแน่ใจว่าช้างได้กลับเข้าสู่เขตป่าได้อย่างปลอดภัยแล้ว

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : ข่าวเด็ด ชุมพร

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : ข่าวเด็ด ชุมพร

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : ข่าวเด็ด ชุมพร

เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์