ภาพวงจรปิดข้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมภายในซอยไทยประกัน 1/5 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ในขณะ นายพิศาล หรือ โบ้ อายุ 23 ปี และ นาย ธีรนันท์ หรือ ธง อายุ 20 ปี พากันขับขี่และซ้อนท้ายมาที่ข้างสนามบิน ก่อนจะตะโกนท้าทายให้อีกฝ่ายออกมาจากภายในสนาม จากนั้นภาพวงจรปิดอีกมุมจับภาพได้ ในขณะที่ นายโบ้ คล้ายกับถืออาวุธปืนวิ่งเข้าไปหากลุ่มของ นายชญามร หรือ วิน อายุ 18 ปี พร้อมกับเพื่อนพากันออกมาจากสนามฟุตบอล เพื่อเผชิญหน้า กับ นายโบ้ และ นายธง

โดยครั้งแรก จะเห็นว่า นายโบ้ ได้ชักอาวุธปืนพยามจ่อยิง แต่เหมือนกระสุนด้าน จึงล่าถอยออกมา จากนั้น นายวินและเพื่อน จึงออกมาตรงประตูทางเข้าสนาม จังหวะนั้นเอง นายธง ซึ่งยืนคุมเชิงอยู่ จึงชักปืนลูกซองสั้นขึ้นมายิงสาดกระสุนเข้าใส่กลุ่มของ นายวินและเพื่อน ทำให้กระสุนพุ่งถูก นายวิน และเพื่อนร่วมงานอีกสองคน คือ นายไชยวัฒน์ อายุ 20 ปี และ นายพรมมินทร์ จนได้รับบาดเจ็บและพากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอด เข้าภายในสนามก่อนจะล้มฟุบกองกับพื้น โดยภาพจากคลิปมือถือของเพื่อนอีกคน สามารถบันทึกภาพได้ในขณะที่เพื่อน ๆ พากันพยามเข้าช่วยชีวิต

จนกระทั่งไม่นาน เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยเดินทางมาถึงและเข้าทำ CPR ยื้อชีวิต นายวิน แต่ไม่เป็นผลยืนยันเสียชีวิตคาขอบสนามฟุตบอล ส่วนเพื่อนอีกสองคน คือ นายไชยวัฒน์ และ นายพรมมินทร์ อาการสาหัส โดยเฉพาะ นายไชยวัฒน์ กระสุนเข้ากลางอกและลำคอ ทีมกู้ชีพเร่งปั้มหัวใจและนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมาอีกราย ส่วนนายพรมมินทร์ ถูกยิงเข้าที่คางและใบหน้าอาการสาหัสเช่นกัน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลให้แพทย์รักษา ท่ามกลางสายตาของคนจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเวลา ประมาณ 21.00 น. วันที่ 18 ก.ค. 68

หลังเกิดเหตุ ทางด้าน พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ. ชูตระกูล ยศมาดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.บางเสาธง พนักงานสอบสวน พร้อมด้วย ฝ่ายสืบสวน แพทย์เวร และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกันปิดกั้นพื้นที่และตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยไปพบหมอนรองปลอกกระสุนปืนลูกซองไม่ทราบขนาดตกอยู่ที่พื้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่ ผนังกั้นสังกะสีข้างสนามฟุตบอลพบร่องรอยกระสุนปืนถาดแฉลบแผ่นสังกะสีจำนวนมาก

จากการตรวจสอบสภาพศพของ นายชญามร หรือ นายวิน พบรูกระสุนตามหน้าอก ใบหน้า รวมกว่า 13 รู เจ้าหน้าที่จึงทำแผนที่และพลิกศพ ก่อนจะบันทึกภาพและเก็บร่างนำส่งชันสูตรอย่างละเอียด ที่นิติเวชรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์

จากการสอบถามนายภูผา อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนเองหันไปเห็นว่า ผู้ก่อเหตุมากันสองคน พอมาถึงเพื่อนผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างในหันไปเห็นก็ตกใจวิ่งเข้าไปในสนาม จนผู้เสียชีวิตและเพื่อนพากันออกมาดู จังหวะที่ คนเสียชีวิตและเพื่อนเดินออกมาถึงทางเข้าประตูสนามก็ได้ยินเสียงปืนหนึ่งนัดทันที

ขณะที่ นายพชรพล อายุ 20 ปี เพื่อนร่วมงานที่มาเตะฟุตบอลในสนาม บอกว่า ผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุเขามีเรื่องกันมาก่อนจากด้านนอก จนผู้เสียชีวิตวิ่งเข้ามาให้เพื่อนที่กำลังเล่นฟุตบอลในสนามช่วย เพื่อน ๆ จึงพากันออกมาดู ตอนแรกผู้เสียชีวิตตะโกนกลับไปหานายโบ้ หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ว่าxูไม่กลัว-ึงหลอกไอ้โบ้ ซึ่งตอนนั้นตนเองก็พยามห้ามปราบผู้เสียชีวิตไม่ให้ออกไป แต่ไม่ทันขาดคำ ระหว่างที่ผู้เสียชีวิตเดินออกมา จึงถูกยิงสวนใส่ทันที

ขณะที่ ฝ่ายบุคคลของโรงงานที่ผู้เสียชีวิตทำงานอยู่ บอกว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งหมด ทำงานอยู่ที่บริษัทที่ตนเองทำงานอยู่ โดย ผู้เสียชีวิตกับเพื่อน เข้ามาฝึกงานตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วน นายโบ้ ผู้ก่อเหตุ เดิมเคยเป็นพนักงานแผนกสโตร์ แผนกเดียวกันกับผู้เสียชีวิต แต่นายโบ้ ได้ออกจากงานไปทำที่ใหม่หลังจากสงกรานต์ ที่ผ่านมา ส่วนปัญหาทะเลาะวิวาทอะไรกันนั้น ตนเองไม่ทราบและทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะหรือมีเรื่องมีราวกันภายในโรงงานมาก่อน

ทางด้าน พล.ต.ต. วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ บอกว่า สำหรับกรณีดังกล่าว จากการสอบสวนพยานแวดล้อมเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ เป็นเพื่อนร่วมงานกันมาก่อน และเคยมีปัญหากันมา พอมาวันนี้ฝ่ายผู้ก่อเหตุทราบว่า ผู้เสียชีวิตจะมาเตะฟุตบอลกับเพื่อนทุกเย็นวันศุกร์ที่สนามแห่งนี้ จึงตามมาก่อเหตุโดยใช้อาวุธปืน ซึ่งผู้ก่อเหตุมีทั้งหมดสองคน ขณะนี้รู้ตัวหมดแล้ว ตอนนี้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนไม่ว่าจะเป็นสืบภาค สืบจังหวัด และสืบท้องที่ เร่งล่าตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกำชับการปฎิบัติตามยุทธวิธีของตำรวจ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมอาวุธปืนหลบหนี ทั้งนี้ ฝากถึงผู้ก่อเหตุขอให้ติดต่อมอบตัว หากยังหลบหนีการจับกุม ทางตำรวจก็ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยเช่นกันเพราะมีอาวุธปืนใช้ในการก่อเหตุ

ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ รายงาน