เรื่องราวสุดรันทดของหญิงวัย 53 ปี ที่ต้องเผชิญกับวิบากกรรมซ้ำสอง เมื่อพ้นโทษจากคดียาเสพติด กลับพบว่าบ้านและสวนทุเรียน ซึ่งเป็นสมบัติที่พ่อแม่สร้างไว้และเธอหวังจะใช้เป็นที่พักพิงในบั้นปลายชีวิต ถูกอดีตสามีที่เคยเลิกรากันไปกว่าสองปี แอบนำไปขายขณะที่เธอติดคุก

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของ นางสาวรัชนีพร (ขอสงวนนามสกุล) วัย 53 ปี ชาวอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เธอได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สถานีตำรวจภูธรท่าแซะแล้ว

นางสาวรัชนีพรเล่าว่า เดิมทีบ้านและที่ดิน 5 ไร่แห่งนี้เป็นของพ่อแม่เธอ เธอได้นำอดีตสามีมาอยู่ด้วยกัน โดยที่เธอเป็นเจ้าของบ้านเพียงผู้เดียว ไม่มีชื่ออดีตสามีในทะเบียนบ้าน ต่อมาอดีตสามีเริ่มติดการพนันและผู้หญิง ก่อนจะทิ้งเธอไปนานกว่าสองปี ซึ่งระหว่างนั้นเธอก็ได้ปลูกทุเรียนไว้ประมาณ 70 ต้น แต่โชคร้าย เธอถูกจับในคดียาเสพติดและต้องโทษจำคุกเกือบ 12 ปี พ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567

หลังจากพ้นโทษเพียงสองวัน เธอก็ต้องช็อกเมื่อทราบว่าบ้านและสวนทุเรียนถูกอดีตสามีนำไปขายระหว่างที่เธออยู่ในเรือนจำ ทำให้เธอไร้ที่อยู่อาศัย ต้องไปอาศัยญาติที่อำเภอหลังสวน ก่อนจะย้ายมาขออาศัยในโรงรถของญาติสามีคนปัจจุบันในตำบลเดียวกัน เพื่อสะดวกในการเดินเรื่องขอความเป็นธรรม

จากการสืบทราบ เธอพบว่าบ้านของเธอถูกขายเปลี่ยนมือไปแล้วถึง 5 ราย โดยรายล่าสุดซื้อไปเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้วในราคา 3 ล้านบาท เธอรู้สึกเสียใจอย่างมากที่เห็นบ้านและสวนทุเรียนที่ปลูกมากับมือถูกขายไปอย่างง่ายดาย ทั้งที่ชื่อของเธอยังคงเป็นเจ้าของบ้านอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสงสัยว่าใครเป็นผู้เซ็นรับรองหนังสือซื้อขายให้ ทั้งที่รู้ว่าเจ้าของบ้านติดคุกอยู่

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 นางสาวรัชนีพรได้นำเอกสารหลักฐานไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร แต่กลับได้รับคำแนะนำให้ไปพูดคุยเจรจากันเอง โดยศูนย์ไม่สามารถออกหนังสือให้ได้ เธอรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากและไม่เข้าใจว่าเหตุใดหน่วยงานรัฐจึงไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ เธอจึงตัดสินใจพึ่งสื่อมวลชนเป็นที่พึ่งสุดท้ายเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมในครั้งนี้