เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า กองทัพภาคที่ 2 พร้อมดำเนินการสร้างรั้วรอบพื้นที่ปราสาททันที หากได้รับคำสั่งจากรัฐบาลและกรมศิลปากร อย่างไรก็ตาม ท่านยอมรับว่าการดำเนินการดังกล่าว อาจทำให้สถานการณ์ชายแดนบานปลายได้ เนื่องจากทางการกัมพูชา ไม่ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ของไทย

สำหรับกรณีเหตุการณ์นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา แม่ทัพภาคที่ 2 เผยว่า ได้ขอโทษไปยังผู้บังคับบัญชาของฝ่ายกัมพูชาเรียบร้อยแล้ว และอีกฝ่าย ไม่ติดใจเอาความ โดยทางไทยได้ ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทันที ซึ่งสร้างความพอใจให้กับฝ่ายกัมพูชา พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวใช้สติและระมัดระวังในการเดินทางชายแดน เพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิด

ส่วน กรณี สมเด็จฮุนเซน แสดงท่าทีคัดค้านการสร้างรั้วและเตือนว่าอาจทำให้สถานการณ์บานปลาย พลโท บุญสิน ชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตที่มีข้อพิพาทด้านแผนที่ ซึ่งกัมพูชาไม่ยอมรับแนวเขตแดนตามแผนที่ไทย แต่หากรัฐบาลไทยมีคำสั่ง กองทัพภาคที่ 2 ก็พร้อมสนับสนุนตามแนวเขตแผนที่ 1 ต่อ 50,000 โดยไม่สนใจการปักหมุดใน Google Map ซึ่งเป็นเพียงประเด็นทางเทคนิคที่รัฐบาลต้องเป็นผู้แก้ไข

ต่อมา แม่ทัพภาคที่ 2 ยังกล่าวถึง การเผยแพร่คลิปของทหารกัมพูชาในโลกออนไลน์ ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและสร้างความรู้สึกไม่ดีต่ออีกฝ่าย จึงขอให้แต่ละประเทศ ควบคุมดูแลกำลังพลของตนเองอย่างเคร่งครัด

ในส่วนของ การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ระหว่างไทยกับกัมพูชา ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า และ อยู่ระหว่างรอท่าทีจากผู้นำกัมพูชา

ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงสถานการณ์ที่ บริเวณภูมะเขือ ว่าเป็นประเด็นที่มีทหารกัมพูชาเข้ามาอยู่ตั้งแต่ปี 2543 และไทยเลือกใช้แนวทางพูดคุยเพื่อแก้ไข เนื่องจากต่างฝ่ายใช้แผนที่คนละฉบับ ส่วน การประกอบพิธีกรรมของชาวกัมพูชาที่ปราสาทตาควาย ยังคงอนุโลมให้ดำเนินการได้ ภายใต้ขอบเขตที่เหมาะสม