กยท. เคลื่อนไหว วางแผนสู้ศึกภาษีศุลกากรสหรัฐฯ มั่นใจยางไทยไม่ถึงทางตัน

กยท. เคลื่อนไหว วางแผนสู้ศึกภาษีศุลกากรสหรัฐฯ มั่นใจยางไทยไม่ถึงทางตัน

วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 นายเพิก เลิศวังพง ประธานคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย และรักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุด ภายหลังสหรัฐอเมริกาประกาศเตรียมเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับสินค้านำเข้าจากประเทศไทยในอัตรา 36% ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ โดยนายเพิกยอมรับว่า มาตรการดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหม่และสร้างความยากลำบากให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันว่าต้องมีการปรับตัวเพื่อรับมืออย่างเป็นระบบ

เพื่อหาทางออกและรับฟังความกังวลของภาคธุรกิจและผู้ประกอบการยางพารา กยท. จึงเตรียมจัดประชุมเชิงระดมความคิดร่วมกับผู้เกี่ยวข้องในวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ซึ่งนายเพิกระบุว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยกันคิดแก้ไขปัญหา และควรหลีกเลี่ยงความตื่นตระหนกจนเกินไป เพื่อให้การปรับตัวเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายเพิกยังกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ จะกระทบต่อหลายประเทศผู้ส่งออกยางพารา เช่น เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย แต่ในมุมมองของเขา ฝ่ายที่ต้องรับภาระโดยตรงที่สุดคือผู้บริโภคในอเมริกาเอง เนื่องจากต้นทุนสินค้าจะสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตและผู้ส่งออกยางพาราของไทยควรพิจารณาปรับกลยุทธ์ทางการตลาด หาแนวทางใหม่ๆ รวมถึงสร้างพันธมิตรเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในตลาดต่างประเทศ

นอกจากนี้ นายเพิกมองว่าวิกฤตครั้งนี้อาจเป็นโอกาสให้ประเทศไทยพัฒนานวัตกรรมและปรับรูปแบบการบริหารจัดการอุตสาหกรรมยางพาราให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ส่งออกของไทยสามารถก้าวข้ามอุปสรรคครั้งนี้ได้สำเร็จ โดยย้ำว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ก็ย่อมจะมีทางออก

สำหรับข้อกังวลของผู้ประกอบการเกี่ยวกับการเจรจาขอลดภาษีลงเหลือ 20-25% นายเพิกให้ความเห็นว่า การย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่นไม่ใช่เรื่องง่ายและมีต้นทุนสูง อีกทั้งมาตรการของสหรัฐฯ เองก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จึงขอให้ผู้ประกอบการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมต่อทุกความเป็นไปได้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ