
สุชาติ เร่งดัน พ.ร.บ.สงฆ์ ลงโทษพระมั่วสีกา จำคุก-ปรับหนัก
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา ในรัฐสภาการประชุมวุฒิสภา นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดถึงเรื่อง วิกฤตศรัทธาในพุทธศาสนา พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่มั่วสีกา ทำลายศรัทธาของชาวไทยพุทธ โดยนายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา เป็นผู้ตั้งกระทู้ถามถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายให้นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายปริญญา ตั้งกระทู้ถามถึงปัญหาพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่มีพฤติกรรมเสื่อมเสีย ทั้งเรื่องมั่วสีกาและการยักยอกเงินวัด ทำลายความรู้สึกและความศรัทธาของชาวพุทธ พร้อมยกตัวอย่างกรณี สีกากอล์ฟ ที่เปิดโปงพฤติกรรมพระไม่ดี และเสนอว่าควรมีผู้หญิงแบบนี้อีก 100 คน เพื่อช่วยเปิดโปงพระที่ประพฤติผิด พร้อมทั้งตั้งคำถาม 4 ข้อ
1. รัฐบาลและสำนักพระพุทธฯ มีการแก้ปัญหาร่วมกับมหาเถรสมาคมอย่างไร
2. การดำเนินคดีต่อพระที่กระทำผิด ทั้งเรื่องเพศและการเงิน สามารถทำได้หรือไม่
3. รัฐบาลจะตรวจสอบการเงินวัดจริงจังเมื่อไหร่ และจะมีการแก้กฎหมายให้ตรวจสอบง่ายขึ้นได้หรือไม่
4. การผลักดัน พ.ร.บ.คุ้มครองพระพุทธศาสนา เพื่อกำหนดโทษจำคุกพระที่กระทำความผิดคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
ด้านนายสุชาติ ตันเจริญ ชี้แจงว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่สังคมสะเทือนใจและทำลายศรัทธาในพุทธศาสนา แต่ไม่ควรใช้วิธีเพิ่มจำนวน สีกา เพื่อจับผิดพระ เพราะจะยิ่งทำให้เสื่อมเสียไปใหญ่ พร้อมยืนยันว่าได้กำชับสำนักพระพุทธฯ ให้ทำงานเชิงรุก สืบหาข่าวร่วมกับท้องถิ่นและชาวบ้านว่ามีพระรูปใดประพฤติไม่เหมาะสม ทั้งในด้านการเงินและศีลธรรม
ส่วนการดำเนินคดีกับพระที่ประพฤติผิด เช่น เสพเมถุน หรือกรณีสีกา ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายกำหนดโทษโดยตรง จึงต้องรีบดำเนินการร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ ฉบับใหม่ เพิ่มโทษจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยค่าปรับอาจสูงถึงหลักหมื่นหรือหลักแสนบาท และสีกาที่มีส่วนร่วมก็จะถูกกำหนดความผิดด้วย หากพบว่าล่อลวงหรือข่มขู่พระ แม้ปัจจุบันยังใช้กฎหมายอาญาอื่นๆ ได้บางกรณี
นายสุชาติ ยืนยันว่าขณะนี้เริ่มกระบวนการร่างกฎหมายแล้ว คาดว่าภายใน 3-4 เดือนนี้จะแล้วเสร็จ พร้อมกับการแก้ไขกฎระเบียบใหม่ เช่น การบริจาคเงินให้วัด ที่มหาเถรสมาคมได้ออกกฎกระทรวงให้วัดนำเงินบริจาคฝากเข้าบัญชีธนาคาร ห้ามถือเงินสดเกิน 1 แสนบาท และต้องจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ต.ค.นี้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและฟื้นความศรัทธาของประชาชนกลับคืนมา