เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 วงการฟุตซอลไทยเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังเฟซบุ๊กเพจ สโมสรแบงค็อก บีทีเอส เอฟซี ได้โพสต์ประณามพฤติกรรมไม่เหมาะสมของชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นกองเชียร์ทีมคู่แข่งอย่าง ชลบุรีบลูเวฟ ที่ได้นำเนื้อหมูสดมาแสดงต่อหน้าทีมงานของสโมสรแบงค็อกฯ ซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ถือเป็นการกระทำที่เหยียดหยามและเย้ยหยันอย่างรุนแรง

โพสต์ของสโมสรแบงค็อก บีทีเอส เอฟซี ระบุข้อความว่า ฝากถึงสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และแฟนคลับฟุตซอลทั่วประเทศ พิจารณาพฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับกลุ่มกองเชียร์ชลบุรีบลูเวฟ (บางส่วน) นำเนื้อหมูสามชั้นใส่ถุงพลาสติก แล้วดึงออกมาโชว์ ในลักษณะของการ เหยียด ดูหมิ่นและเย้ยหยันอันเนื่องมาจาก ผู้จัดการสโมสร แบงค็อกบีทีเอส เป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม และกลุ่มบุคลากรนักกีฬาส่วนใหญ่ในสโมสร ก็เป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม

สโมสรฯ ชี้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการนำสิ่งที่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลามมาใช้เพื่อดูหมิ่นและสร้างความสะใจให้กับกลุ่มกองเชียร์ของตนเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดวิสัยของการเชียร์กีฬาโดยทั่วไป และยังเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่กระทบต่อความรู้สึกของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นอย่างมาก

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : สโมสรแบงค็อก บีทีเอส เอฟซี

การกระทำนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้จัดการทีม บุคลากร และนักกีฬาของสโมสรเท่านั้น แต่ยังสร้างความเสื่อมเสียให้กับแวดวงการเชียร์กีฬาโดยรวม ซึ่งสปิริตถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สโมสรฯ ย้ำว่าหากเรื่องนี้แพร่หลายออกไปในวงกว้าง จะส่งผลเสียหายอย่างรุนแรงต่อการแข่งขันฟุตซอลลีก และเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้โดยสิ้นเชิง

หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตได้มีการส่งต่อและระบุตัวตนของชายในคลิปดังกล่าว โดยเฟซบุ๊กชื่อ ท่านเปา ได้แสดงความเห็นและคาดการณ์ว่าชายคนนี้น่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ซึ่งทำให้เฟซบุ๊กของร้านดังกล่าวถูก ทัวร์ลง อย่างหนัก จนต้องปิดช่องแสดงความคิดเห็นไปในที่สุด

ล่าสุด สโมสรฟุตซอลบลูเวฟ ชลบุรี ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่สโมสรยอมรับได้ และให้คำมั่นว่าจะดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียด รวมถึงจะมีการจัดมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : สโมสรแบงค็อก บีทีเอส เอฟซี

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : สโมสรแบงค็อก บีทีเอส เอฟซี

เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์