
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ ออกแถลงการณ์ด่วนที่สุด
จากกรณีที่กองบังคับการปราบปรามมีข้อมูลว่า พระภาวนาวิริยคุณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ โอนเงินให้สีกา ก. 182,200 บาท ซึ่งพอไปถึงโยมอุปัฏฐากของทางวัดพยายามเข้ามากีดกันสื่อมวลชนไม่ให้บันทึกภาพและไม่ให้รายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น
ก่อนที่ต่อมาพระราชวชิราธิบดี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ ได้ออกมาชี้แจงสั้นๆ แต่โยมอุปัฏฐากของทางวัดไม่อนุญาตให้บันทึกภาพและเสียง รวมถึงไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายภาพ และไมโครไฟน เข้าไปในห้องประชุมขณะพูดคุย อนุญาตให้นำเพียงกระดาษและปากกาเข้าไปจดบันทึกเท่านั้น
โดยจากข้อมูลของกองปราบฯ พระราชวชิราธิบดีให้ข้อมูลว่าพระภาวนาวิริยคุณ วิ. (ไสว ธีรโสภโณ เปรียญธรรม 7) เคยอยู่ที่วัดนี้ แต่ออกจากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯ ไปเมื่อต้นปี 2562 เป็นระยะเวลา 6 ปีแล้ว แต่ออกไปทำอะไรนั้นไม่ทราบเพราะท่านไม่ได้บอกเหตุผล ทราบแต่เพียงว่าย้ายไปจำวัดที่วัดบ้านเกิดในอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ส่วนพระภาวนาวิริยคุณ มีลักษณนิสัยอย่างไร ตรงนี้ไม่ทราบเพราะอยู่คนละส่วนกัน
เมื่อถามว่ามติเถรสมาคมมีคำสั่งให้พระภาวนาวิริยคุณพ้นจากตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ ข้อเท็จจริงตรงนี้เป็นอย่างไร พระราชวชิราธิบดีระบุว่าให้ไปสอบถามข้อมูลส่วนนี้จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติโดยตรง
ล่าสุด วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง พระภิกษุที่ปรากฏในข่าว ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับวัด
ตามที่ได้ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ กรณีพระภิกษุรูปหนึ่งมีความเกี่ยวข้องกับสีกา ก. และปรากฏชื่อวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ในข่าวนั้น
ทางวัดขอแจ้งให้ทราบว่า พระภิกษุรูปดังกล่าว ได้ออกจากสังกัดวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ และไม่ได้พํานักอาศัยอยู่ ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 จึงไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับทางวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์