เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยก้าวหน้าครั้งสำคัญในวงการแพทย์และเภสัชกรรม ด้วยความสำเร็จในการผลิต ยาอิมครานิบ 100 ซึ่งเป็น ยารักษาโรคมะเร็งแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy) ชนิดเม็ด ตำรับแรกที่ผลิตขึ้นในประเทศ จากพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถของ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

ยาอิมครานิบ 100 มีจุดเด่นคือ เป็นยาที่ออกฤทธิ์จำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง สามารถทำลายหรือยับยั้งเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ โดยลดผลกระทบต่อเซลล์ปกติ ช่วยลดผลข้างเคียงเมื่อเทียบกับเคมีบำบัดแบบดั้งเดิม และสามารถปรับแผนการรักษาตามลักษณะโรคของผู้ป่วยแต่ละราย

ยานี้จะเริ่มจ่ายที่ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป และจะช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการนำเข้ายาต่างประเทศได้มากถึง 10 เท่า โดยใช้รักษาโรคมะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งทางเดินอาหาร และมะเร็งผิวหนัง

ยาอิมครานิบ 100 ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Tyrosine kinase ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเติบโตและกระจายของเซลล์มะเร็ง ทำให้ควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้รักษาได้หลายประเภท ได้แก่

- โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดซีเอ็มแอล (CML)

- มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดฟิลาเดลเฟียบวก (Ph+)

- มะเร็งเนื้อเยื่อในระบบทางเดินอาหาร (GIST)

- มะเร็งผิวหนังชนิดหายาก (DFSP)

แม้ว่าเดิมจะมียาต้นแบบอย่าง อิมมาทินิบ ที่สามารถเบิกจ่ายได้ในบางโรคและบางระยะโรค แต่ยังมีข้อจำกัด ทำให้ผู้ป่วยบางกลุ่มยังเข้าไม่ถึงยา การผลิตอิมครานิบ 100 ในประเทศจะช่วยขยายขอบเขตการใช้ยาให้ครอบคลุมขึ้น ลดความทุกข์ทรมาน เพิ่มโอกาสควบคุมโรค และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยไทยอย่างแท้จริง

ความสำเร็จนี้เกิดจาก โครงการโรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ซึ่งตั้งอยู่ ณ พระตำหนักพิมานมาศ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ก่อตั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 โรงงานแห่งนี้ถือเป็นต้นแบบการผลิตยาที่ครบวงจร ทันสมัย และได้รับการรับรองมาตรฐาน GMDP PIC/s ในระดับสากล สามารถผลิตยาได้ในระดับอุตสาหกรรม เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ

โดยยาอิมครานิบ 100 ได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 และจะถูกนำมาใช้จริงในระบบการรักษาของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซึ่งมีความพร้อมทั้งในด้านระบบบริการ การจัดการยา และการติดตามผลลัพธ์ทางคลินิก เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์สูงสุด

ความสำเร็จในการผลิตยาอิมครานิบ 100 ครั้งนี้ไม่เพียงช่วยผู้ป่วยมะเร็งให้เข้าถึงยาคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม แต่ยังช่วยยกระดับองค์ความรู้ด้านเภสัชกรรม พัฒนาทักษะบุคลากร และเสริมสร้างความมั่นคงทางยาของประเทศไทยในระยะยาว เพื่อให้ประชาชนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป