สาวหัวร้อน ขับเก๋งชนควายวิ่งตัดหน้า ลงมาชี้หน้าด่าสารพัด ก่อนคว้าแผ่นป้ายทะเบียนฟาดหน้าตาวัย 71 ปี อ้างรู้จักคนใหญ่คนโต ไม่กลัวใครทั้งนั้น

สาวหัวร้อน ขับเก๋งชนควายวิ่งตัดหน้า ลงมาชี้หน้าด่าสารพัด ก่อนคว้าแผ่นป้ายทะเบียนฟาดหน้าตาวัย 71 ปี อ้างรู้จักคนใหญ่คนโต ไม่กลัวใครทั้งนั้น

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2568 นายลิขิต อายุ 71 ปี เข้าแจ้งความกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีณรงค์ ในสภาพมีบาดแผลบนใบหน้า โดยเผยว่า ถูกหญิงคนขับรถเก๋ง ใช้ป้ายทะเบียนรถฟาดหน้า หลังเกิดอุบัติเหตุรถชนควาย บริเวณข้างหนองน้ำจะนะ บนถนนสายศรีณรงค์-สังขะ ม.10 ต.ณรงค์ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์

นายลิขิต เล่าว่า นำควายออกมาเลี้ยงที่ข้างหนองน้ำจะมะเป็นประจำทุกวัน แต่วันนี้ควายที่ผูกเอาไว้หลุดวิ่งออกไปที่ถนน ทำให้รถเก๋งสีขาวที่วิ่งมาด้วยความเร็วชนเข้าอย่างจัง ควายล้มลงบาดเจ็บขาหัก ส่วนรถเก๋งด้านหน้าพังเสียหาย หญิงสาวคนขับ น่าจะอายุประมาณ 30 ปี ลงมาจากรถมาชี้หน้าด่าทอด้วยคำหยาบคาย ทั้งไอ้แก่รถกูพังหมดซ่อมให้กูนะ มึงพูดดีๆ นะ จากนั้น ก็วิ่งเข้ามาหาใช้ทะเบียนรถที่ถือไว้ฟาดหน้าจนเลือดไหล และทำร้ายร่างกายใช้เล็บข่วนหน้าจนระบมไปทั้งตัว หลังจากไปรพ.แล้ว จึงมาแจ้งความ

ทางด้าน ลูกชายนายลิขิต กล่าวเสริมว่า พ่อไม่สบายอยู่แล้ว ยังมาทำร้ายพ่อผมอีก ผมไม่เข้าใจว่า ในเมื่อรถคุณวิ่งมาชนควายของผมได้รับบาดเจ็บ รถคุณเสียหายผมก็พร้อมที่จะชดใช้ให้ โทรหาประกันเข้ามาเคลียร์ ก็บอกว่ารถประกันชั้น 3 และต้องให้ช่างมาประเมิน หญิงคนนั้นยังบอกอีกว่าไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นบาท ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจทำไมแพง แค่หม้อน้ำแตกเท่านั้น แต่ตนก็ต้องยอมชดใช้ ขอให้ชี้แจงค่าใช้จ่ายมาเท่านั้น

ส่วนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ให้ข้อมูลว่า หญิงสาวเจ้าของรถ ชี้หน้าด่าทอคุณตาต่างๆ นานา อ้างว่ารู้จักคนใหญ่คนโตในพื้นที่ ไม่กลัวใครทั้งนั้น ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ลุงลิขิตไม่สบายใจ วอนผู้สื่อข่าวช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ด้วย เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะแก่แล้วเป็นแค่เพียงชาวบ้านธรรมดา

ขณะที่ พ.ต.อ.ทวีพงษ์ โพธิจิ๋ว ผกก.สภ.ศรีณรงค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว และจะลงมาคุมคดีนี้ด้วยตนเอง คนเราอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ใหญ่หรือเล็กทำผิดก็ดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมือง ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายไปได้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ