วันที่ 6 ก.ค. 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นายนิเวศน์ฯ อายุ 46 ปี โดยกล่าวหาว่า หมายจับศาลจังหวัดเชียงคำ ที่ จ. 22/2568  ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่ขัดขืนได้ และกระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืน, ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน สามารถจับกุมได้ที่ บริเวณสะพานแห่งหนึ่ง ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี

สืบเนื่องมาจาก ผู้เสียหายซึ่งเป็นครูโรงเรียนหนึ่ง ในจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกเลี้ยงของผู้ต้องหา ได้แจ้งความดำเนินคดี กับนายนิเวศน์ฯ อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นสามีใหม่ ของมารดาตัวเอง โดยเมื่อเดือน มีนาคม 2568 เวลา 02.40 น. ขณะผู้เสียหายกำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอน ผู้ต้องหาได้บุกเข้าไปใช้อาวุธปืนข่มขู่ บังคับขืนใจ และขู่จะเอาชีวิตหากเอาเรื่องไปบอกกับใคร ซึ่งผู้เสียหายจดจำใบหน้าได้ดี เพราะเป็นพ่อเลี้ยงของตนเอง ก่อนหลบหนีไป จึงได้แจ้งความดำเนินคดี ก่อนศาลออกหมายจับดังกล่าว

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครศรีธรรมราช ชุดจับกุม ทราบว่า มีผู้ต้องหาหลบหนีจับหมายจับศาลจังหวัดเชียงคำ ที่ จ. 22/2568 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่ขัดขืนได้ และกระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืน,ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน และ จนท.ตร.ชุดจับกุมได้สืบทราบว่าผู้ต้องหา ได้เดินทางหลบหนีหมายจับลงมาทางภาคใต้ ไม่ทราบปลายทางที่แน่นอน

จากนั้น ทราบว่ามาพักอาศัยที่ ริมทะเล อ.ไชยยา จ.สุราษฎร์ธานี จนท.ตร.ชุดจับกุมจึงได้วางแผนจับกุมตัวผู้ต้องหา บริเวณสะพานแห่งหนึ่ง ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พบจอดรถนอนอยู่บริเวณดังกล่าว จนท.ตร.ชุดจับกุม จึงนำ หมายจับศาลจังหวัดเชียงคำ ที่ จ. 22/2568 และภาพถ่ายให้ นายนิเวศน์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับดู และ นายนิเวศน์ฯ ผู้ต้องหา ได้ยืนยันว่า ตนเป็นบุคคลคนเดียวกันตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงคำ ในคดีนี้จริง

เนื่องจากกระทำความผิดฐาน ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่ขัดขืนได้ และกระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืน, ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน และยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่า เป็นผู้หลบหนีหมายจับศาลจังหวัดเชียงคำ จึงได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งสถานีตำรวจภูธรจุน จังหวัดพะเยา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน