พ่อใจสลาย! ลูก 2 ขวบครึ่ง เข้า รพ. หลังเผลอกินเยลลี่หมีผสมกัญชา

พ่อใจสลาย! ลูก 2 ขวบครึ่ง เข้า รพ. หลังเผลอกินเยลลี่หมีผสมกัญชา

กลายเป็นอุทาหรณ์ที่น่าตกใจและถูกแชร์อย่างกว้างขวางบนโลกโซเชียล เมื่อเพจเฟซบุ๊ก เชียงใหม่ ได้เผยแพร่เรื่องราวของเด็กหญิงวัย 2 ขวบ 6 เดือน ที่ต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลถึงสองครั้ง หลังจากเผลอกิน เยลลี่หมีผสมกัญชา เข้าไปถึง 10 เม็ด เหตุการณ์นี้จุดชนวนให้เกิดข้อถกเถียงอย่างหนักเกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์กัญชาในรูปแบบขนมที่เข้าถึงได้ง่าย

นายเอ็ม (นามสมมุติ) วัย 31 ปี พ่อของเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้าย เล่าว่า เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเป็นวันเกิดของคุณลุงของเด็ก มีเพื่อนของคุณลุงคนหนึ่งพร้อมแฟนสาวได้นำเยลลี่กัญชาเข้ามาในงานเลี้ยงและกินในงาน แต่ลืมนำกลับบ้านไปที่ลำปาง

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : เชียงใหม่

รุ่งเช้าอีกวันก่อนไปโรงเรียน ลูกสาวของเขาได้หยิบกระปุกเยลลี่ที่เหลือติดมือขึ้นรถไปกิน และกินเข้าไปถึง 10 ชิ้น เมื่อไปถึงโรงเรียน คุณครูประจำชั้นสังเกตเห็นอาการผิดปกติของเด็กหญิง ซึ่งมีอาการง่วงซึม ตาปรือ และไม่ร่าเริงเหมือนปกติ แม้กระทั่งเมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน คุณครูปลุกก็ไม่ตื่น ด้วยความเป็นห่วงว่าเด็กจะไม่สบาย คุณครูจึงโทรแจ้งผู้ปกครองให้มารับและนำส่งโรงพยาบาลทันที

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : เชียงใหม่

ในตอนแรก แพทย์ไม่สามารถหาสาเหตุของอาการป่วยได้ จนกระทั่งครอบครัวได้พูดคุยกันในกลุ่มไลน์และสอบถามว่ามีใครให้อะไรน้องกินในงานวันเกิดคุณลุงหรือไม่ เนื่องจากเด็กมีอาการคล้ายคนเมากัญชา เพื่อนในกลุ่มจึงยอมรับว่าได้นำเยลลี่กัญชามากินและลืมทิ้งไว้ เมื่อทราบดังนั้น ครอบครัวจึงแจ้งแพทย์ทันที แพทย์ต้องฉีดยาให้เด็กหลับ และเด็กหญิงคนดังกล่าวหมดสติไปนานกว่า 24 ชั่วโมง

ใบรับรองแพทย์ระบุว่าลูกสาวของนายเอ็มมีอาการ ภาวะเปลี่ยนแปลงของระดับความรู้สึกตัวแบบฉับพลันจากการได้รับพิษกัญชาโดยบังเอิญ และโพรงไซนัสอักเสบเฉียบพลัน นายเอ็มเผยว่า เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนในบ้านตกใจอย่างมาก โชคดีที่คุณครูสังเกตเห็นอาการและคุณลุงนำส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที ทำให้ลูกสาวรอดพ้นจากอันตรายถึงชีวิต

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : เชียงใหม่

หลังจากออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เพียงไม่ถึงครึ่งวัน เด็กหญิงก็ต้องกลับเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เนื่องจากมีอาการไข้สูงและหูแว่วตลอดเวลา นายเอ็มกล่าวด้วยความกังวลว่า หากอาการหายแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าสารจากกัญชาจะส่งผลกระทบต่อสมองของลูกในอนาคตหรือไม่นอกจากนี้ เขายังเผชิญปัญหาค่ารักษาพยาบาลกว่า 50,000 บาท ซึ่งประกันไม่ครอบคลุม เนื่องจากสาเหตุไม่ได้เกิดจากโรค แต่เกิดจากสารเสพติด

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : เชียงใหม่

ด้วยความไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับเด็กคนอื่นอีก เมื่อเย็นวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 นายเอ็มได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรหางดง พร้อมนำกระปุกและเยลลี่สีดำ 2 ชิ้นที่เหลือไปเป็นหลักฐาน เพื่อให้ตำรวจส่งตรวจหาสารเสพติด เขายืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และเรียกร้องให้ผู้ที่นำเยลลี่กัญชาเข้ามาในบ้านตนเองออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อครอบครัวของเขา

นายเอ็มต้องการให้กรณีของลูกสาวตนเองเป็นกรณีตัวอย่าง และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ควรมีแต่กฎหมายควบคุมดอกกัญชาเท่านั้น แต่ควรมีการควบคุมผลิตภัณฑ์อาหารและขนมที่ผสมกัญชาอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กที่ไม่ทราบ หรือประชาชนที่มีอาการแพ้กัญชา ซึ่งอาจได้รับอันตรายถึงชีวิตได้จากพิษภัยของกัญชา

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : เชียงใหม่

เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ