เจ้าของบ้านสุดงง เจอชายวัย 48 ดับปริศนาอยู่หน้าบ้าน เดินเข้าไปดูถึงกับผงะ

เจ้าของบ้านสุดงง เจอชายวัย 48 ดับปริศนาอยู่หน้าบ้าน เดินเข้าไปดูถึงกับผงะ

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 5 ก.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรหมคีรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ริมถนนสาย อบต.อินคีรี-นาสร้าง หมู่ 4 ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลพรหมคีรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวริมถนน หน้าบ้านพบผู้เสียชีวิต สภาพนอนคว่ำหน้าบนพื้นดิน นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าหน้าอกขวากระสุนทะลุหลัง 1 นัด ไม่พบปลอกกระสุน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา คือ นายวิรุท อายุ 48 ปี ชาว ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี ซึ่งบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุ ห่างกันประมาณ 50 เมตร โดยหน้าบ้านที่เกิดเหตุบนโต๊ะหน้าบ้าน พบขวดเหล้าขาว 1 ขวด ที่เปิดกินไปแล้วครึ่งขวด ใกล้ร่างผู้เสียชีวิตพบท่อนไม้ยาวประมาณ 1 เมตร ยังไม่ทราบว่าเป็นของใคร

จากการสอบสวนนายวิมล อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ให้การว่า ขณะตนและภรรยา นอนหลับในบ้าน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด หน้าบ้าน จึงตกใจและรีบเปิดประตูออกมาดูก็พบร่างนายวิรุท เพื่อนบ้าน ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว โดยยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนก่อเหตุ ส่วนขวดเหล้าและแก้วเหล้า ก็ไม่รู้ว่าเป็นของใครมานั่งกินหน้าบ้านตน ซึ่งทางตำรวจได้เชิญตัวนายวิมลและภรรยา ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก เพื่อเร่งคลี่คลายคดีหาตัวผู้กระทำความ

จากการสอบถาม นางวิไล อายุ 61 ปี น้าสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลานชายของตน ปกติอาศัยบ้านฝั่งตรงข้ามเพียงคนเดียว ตนและญาติจะทำหน้าที่ส่งอาหารและน้ำให้หลานชาย เนื่องจากนายวิรุท เลิกรากับภรรยามา 10 ปี แล้ว และแม่ของหลานชาย เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ตนไม่ทราบเหมือนกันว่าหลานชายของตนมาถูกยิงที่หน้าบ้านที่เกิดเหตุได้อย่างไร

โดยเมื่อประมาณ 4 - 5 ปี ที่ผ่านมา หลานชาย เคยถูกคู่อริยิงได้รับบาดเจ็บและรักษาจนหายขาด ส่วนมือยิงถูกศาลตัดสินจำคุก 12 ปี อยู่ระหว่างจำคุกในเรือนจำ ไม่ทราบเหมือนกันว่าที่ผ่านมา เขาไปมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครบ้างในหมู่บ้าน ส่วนญาติอยู่ต่างจังหวัดกันหมด ตนอยากให้ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ได้โดยเร็ว ส่วนร่างหลานชาย ตนจะไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดโทเอก ในพื้นที่ ต.อินคีรี อ.พรหมคีรี ต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ