จากกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีคำสั่งให้ออกจากราชการมิชอบด้วยกฎหมาย

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาโทษวินัยร้ายแรงของ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. โดยผลการประชุมสรุปได้ว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ไล่ออก บิ๊กโจ๊ก เนื่องจากกระทำผิดวินัยร้ายแรง

สืบเนื่องจากกรณีที่มีพนักงานสอบสวนร้องทุกข์กล่าวโทษในพื้นที่ สน.เตาปูน ให้ดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำความผิดเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ 22 คน ในความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งมิได้อนุญาตจากเจ้าพนักงานและความตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินพนักงานสอบสวนสอบสวนจนพบเครือข่ายเจ้าของเว็บพนันและพบเส้นทางการเงินเกี่ยวกับข้าราชการตำรวจหลายนาย รวมถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ด้วย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยยื่นร้องเรียนขอให้ประธานศาลปกครองสูงสุดตรวจสอบและดำเนินการทางวินัยกับตุลาการเจ้าของสำนวน เนื่องจากพบว่ามีพฤติกรรมไม่เป็นกลาง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ฝ่าฝืนหลักจริยธรรมของตุลาการศาลปกครองอย่างร้ายแรง

โดยตุลาการเจ้าของสำนวนจงใจปฏิบัติหน้าที่ละเลยพยานหลักฐานฝ่าย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยปราศจากความเป็นกลาง มีอคติ และกระทำโดยมิชอบ รวมทั้งมีการสรุปข้อเท็จจริงเอนเอียงไม่เป็นกลาง เป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อจริยธรรมตุลาการศาลปกครองอย่างร้ายแรง