วันที่ 30 มิ.ย. 2568 จากกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้ บริษัท ริเวอร์โปร์ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช ซ.8 ต.บัวลอย อ.หนองแค จ.สระบุรี จนต้องใช้ รถดับเพลิง รถน้ำจากที่ต่างๆ เทศบาล ต.หนองแค อบต.ในพื้นที่ อ.หนองแค และพื้นที่ใกล้เคียง กว่า 50 คัน รวมถึงอาสาสมัครมูลนิธิสว่างรัตนตรัยธรรมสถาน/ปอเต็กตึ๊ง/ร่วมกตัญญู อีกเป็นจำนวนมาก เข้าระงับเพลิง

ที่เกิดเหตุพบ เพลิงกำลังลุกไหม้ภายในโรงงาน ซึ่งผลิตสินค้ากระดาษทิชชู อย่างรุนแรง ในขณะเดียวกันได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของโรงงานแจ้งว่ายังมี พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในออฟฟิตบริเวณชั้น 2 และ ชัน 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ เจ้าหน้าที่จึงใช้ความพยายามเร่งฉีดน้ำดับเพลิง แต่ก็ไม่สามารถสกัดเพลิงได้ เพราะจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงเป็นอย่างดี จนเวลาล่วงเลยไปนานกว่า 2 ชม. จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้

ล่าสุด มีรายงานว่า พบร่างผู้เสียชีวิตรวม 8 ราย ซึ่งทุกร่างถูกไฟเผาไหม้จนไม่สมารถยืนยันอัตลักษณ์ได้ ส่วนอีก 2 รายที่เหลือยังอยู่ระหว่างการค้นหา โดยเจ้าหน้าที่จะต้องฉีดน้ำให้ภายในตัวอาคารมีความเย็นก่อน จึงจะสามารถเดินหน้าค้นหาทุกจุด ที่คิดว่าพนักงานจะหลบอยู่ และตราบใดที่ยังไม่เจอ ยังถือว่ามีโอกาส เพราะพื้นที่บางส่วนของตัวอาคาร ยังไม่ถูกไฟไหม้ทั้งหมด ซึ่งบริเวณรอบๆ โรงงานยังคงมีญาติๆ ของผู้สูญหายมาปักหลักนั่งรอหน้าบริษัทด้วยความหวังว่าจะได้พบเจอหน้าผู้สูญหาย

ทางด้านนายวุฒิ (นามสมมติ) หนึ่งในญาติผู้สูญหาย เล่าว่า ตนเองมานั่งรอแฟนสาว ทำงานอยู่บนออฟฟิตชั้น 3 แผนก VA ตนเองมารอดูเหตุการณ์ และรอแฟนของตนเองตั้งแต่เที่ยงขอวันเกิดเหตุ ซึ่งตนเองพยายามที่จะโทรติดต่อ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งแฟนของตนเองก็อยู่ในกลุ่ม 10 คนของผู้สูญหาย ส่วนในด้านความรู้สึกตอนนี้ตนเองอยากเจอหน้าแฟนสาวมาก หวังว่าคงจะมีปาฏิหาริย์ให้แฟนรอดออกมาได้

ทางด้านนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค เผยว่า ตอนนี้สามารถควบคุมเพลิงได้ 80% ซึงสามารถจำกัดวงของเพิงได้แล้ว ซึ่งตอนนี้ยังคงต้องฉีดน้ำเลี้ยงเพลิงไม่ให้ลุกลามไปอีก และจะควบคุมเพลิงให้ดับให้ไวที่สุดตอนนี้พบผู้สูญหายทั้งสิ้น 6 ราย ผู้บาดเจ็บจำนวน 7 ราย แต่ไม่สาหัส โดยมีการวางแผนที่จะควบคุมเพลิงให้จบ และประเมินโครงสร้างของอาคารอีกครั้ง เพื่อที่จะคนหาคนได้ในโซนที่จะต้องค้นหา ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำงานโดยการแบ่งฝ่ายกันเรียบร้อยและชัดเจน

ส่วนสาเหตุที่เกิดไฟไหม้นั้นยังไม่ทราบ ส่วนการควบคุมเพลิงได้ส่งชุดผจญเพลิง และในส่วนที่เข้าไปไม่ได้ได้ส่งมอร์นิเตอร์เข้าไป และอีกโซนคนเข้าไปดับ ส่วนทีมค้นหาคนจะเป็นทีมของอาสาสมัครกู้ภัยฯที่จะลงไปทำงาน ซึ่งจะทำการหาทุกชั้นที่น่าจะมีคนอยู่ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ชั้น ซึ่งต้นเพลิงเกิดจากตัวอาคารบริเวณออฟฟิต ซึ่งในส่วนของไฟตนเองคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาสามารถควบคุมได้ ส่วนในด้านการค้นหาคนนี่แหละคือสิ่งสำคัญ และเป็นภารกิจที่จะต้องทำ ส่วนที่ทำให้เกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วเนื่องจากว่าเป็นโรงงานผลิตกระดาษทิชชู มูลค่าความเสียหายยังประเมินไม่ได้แต่คาดว่าน่าจะเยอะ

ผู้สื่อข่าวจังหวัดสระบุรี รายงาน