หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คุณยาย วัย 60 ปี ชาว ต.ทุ่งแสงทอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้เสียชีวิตลง เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา จากอาการหน้ามืด ล้มศรีษะฟาดพื้น ขณะเดินทางไปงานอุปสมบทที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ขณะที่ญาติได้นำร่างของคุณยายกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านได้เพียงวันเดียว

ต่อมา หลานชายวัย 18 ปี ที่ยาย (ผู้เสียชีวิต) เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กก็เกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาลนางรอง ช่วงเย็นวันที่ 27 มิ.ย. 2568 แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ หลานชายเสียชีวิตอีกคน ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะต้องจัดงานศพคนในครอบครัวพร้อมกันถึง 2 ศพ

จากการสอบถาม แม่ของชายผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนทำงานอยู่กรุงเทพฯ เพื่อหาเงินส่งเสียครอบครัว ช่วงว่างก็จะกลับบ้านไปเยี่ยมตา ยายและลูก วันที่เกิดเหตุตนก็ทำงาน รู้อีกทีตอนที่ลูกโทรไปบอกว่ายายเข้าโรงพยาบาล เพราะล้มหัวฟาดพื้น ขณะรอขึ้นรถที่ บขส.นางรอง เพื่อจะไปงานบวชที่ จ.มหาสารคาม แต่เข้าโรงพยาบาลได้แค่วันเดียว แม่ก็เสียชีวิต ต่อมา ก็นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน

แต่ช่วงเย็นลูกชายก็มาบอกตนว่ามีอาการแน่นหน้าอก ตนก็คิดว่าน่าจะเกิดจากโรคประจำตัว หอบหืดกำเริบหรือไม่ แต่พอลูกบอกว่า เหมือนจะหายใจไม่ออกแล้ว จึงได้รีบนำส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายลูกชายก็เสียชีวิต แพทย์ระบุว่าเกิดจากโรคไข้หวัดใหญ่ลงปอด ตนเสียใจมาก ไม่คิดว่าจะมาสูญเสียทั้งแม่และลูกชายไปไล่เลี่ยกันแบบนี้ สำหรับยายกับลูกชาย เขาผูกพันกันมาก เพราะยายเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก