วันที่ 20 มิ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะเมา ได้รับแจ้งว่าพบศพผู้เสียชีวิต บริเวณคูน้ำริมถนนในสวนปาล์ม ม.7 ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.มหาราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ รีบรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิต เพศชาย ไม่ทราบชื่อ คาดว่าอายุไม่น้อยกว่า 35 ปี นอนเสียชีวิตในคูน้ำร่องสวนปาล์ม สวมเสื้อสีน้ำเงิน ใส่กางเกงในสีฟ้า และมีกุญแจ (แบบเหล็ก) ใส่ที่ข้อมือทั้งสองข้าง มีใบตาลโตนดปิดทับศพอยู่ ซึ่งแพทย์คาดว่า เสียชีวิตมานานประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไป และยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด เนื่องจากมีสภาพเน่าเปื่อย ซึ่งแพทย์ได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำศพไปชันสูตรหาสาเหตุการตายที่ชัดเจน ที่รพ.มหาราช อีกครั้ง โดยทางพนักงานสอบสวนได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุ พร้อมถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

จากการสอบสวน นายอรุณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ซึ่งได้มาวางไซดักปลาในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยพบว่าในจุดดังกล่าวเป็นคูน้ำและมีใบไม้ใบหญ้าและใบตาลโตนดปกคลุมอยู่ จึงเข้าไปรื้อและแหวกใบตาลโตนดออกเพื่อวางไซ แต่ต้องผงะหน้าซีด เมื่อได้พบคล้ายศพมนุษย์นอนอยู่ จึงตกใจวิ่งหนีไปจากที่เกิดแหตุ ก่อนตั้งสติได้ แจ้งเพื่อนบ้านให้ทราบและช่วยมาตรวจสอบ จนพบว่าเป็นศพมนุษย์จริง ๆ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร มาจากไหน อยู่ระหว่างการตรวจสอบในพื้นที่ ต.ชะเมา และใกล้เคียง จากการสันนิษฐานในเบื้องต้น คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นคนต่างพื้นที่ ถูกคู่อริซึ่งอาจจะเป็นคนมีสีและมีเรื่องโกรธแค้นหรือหักหลังเรื่องผลประโยชน์บางอย่างกันมาก่อน และคู่อริหรือคนร้าย ซึ่งคาดว่ามี 2 คนขึ้นไป ได้อุ้มผู้เสียชีวิตจับใส่กุญแจมือเพื่อป้องกันการหลบหนี

ก่อนจะนำตัวมาเค้นสอบถามหรือเจรจรตกลงผลประโยชน์บางอย่าง แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงถูกคู่อริทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ก่อนจะนำศพมาทิ้งในคูน้ำร่องสวนปาล์มในจุดที่พบศพและใช้ใบตาลโตนดปิดทับไว้ จนมีชาวบ้านมาวางไซดักปลามาพบดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้รู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร จะได้สืบสวนสอบสวนสาวโยงไปถึงสาเหตุการสวมกุญแจมือสังหารโหด และสืบสวนหาตัวคนร้ายต่อไป

ทั้งนี้ ชาวบ้านมีการวิพากย์วิจารณ์อย่างเคลือบแคลงสงสัยว่า คนร้ายอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ร่วมกันจับกุมผู้เสียชีวิต ก่อนจะรุมซ้อมเพื่อให้เปิดปากสารภาพ แต่กระทำรุนแรงเกินไปจนเสียชีวิต ชุดจับกุมเกรงกลัวความผิดจึงนำศพมาหมกทิ้งในคูน้ำร่องสวนปาล์มในจุดดังกล่าวเพื่ออำพรางคดี แต่ด้วยความรีบร้อนจึงลืมถอดกุญแจมือที่สวมมือผู้เสียชีวิตออกก็เป็นได้ หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะมารายงานให้ทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงาน