วันที่ 12 มิถุนายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า ระบุว่า บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรเฝ้าระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนสะสม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม

นอกจากนี้ เกษตรกรควรเตรียมรับมือและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตร ทั้งนี้ เป็นผลมาจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย

สำหรับสถานการณ์คลื่นลม บริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร โดยในจุดที่มีฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรมอุตุฯ ขอให้ชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง โดยเฉพาะเรือเล็กในทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2568

ขณะเดียวกัน พายุโซนร้อน หวู่ติบ บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ เข้าสู่ประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิถุนายน 2568 แม้พายุลูกนี้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ขอให้ผู้ที่มีแผนเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางเพื่อความปลอดภัย

 ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก :กรมอุตุนิยมวิทยา

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์

ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม

กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดอุทัยธานี สระบุรี และกาญจนบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดระนองขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดพังงาลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก :กรมอุตุนิยมวิทยา

เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์