เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 10 มิ.ย. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งว่า มีรถยนต์ชนคนข้ามถนนมีผู้เสียชีวิตบริเวณถนนสุขสวัสดิ์ปากซอยสุขสวัสดิ์ 78 (ซอยวัดชังเรือง) ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้ง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลนมุ่งหน้าเข้า อ.พระสมุทรเจดีย์ บริเวณเลนขวาสุดติดกับเกาะกลาง พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นายปิยะพงษ์ อายุ 40 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นถนน สวมเสื้อยีนส์แขนสั้นสีน้ำเงิน สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน แขน ขา และคอหัก ห่างกันประมาณ 10 เมตรพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น แอคคอร์ด สีเทา หมายเลขทะเบียน 8 ก บ 4959 กทม.เปิดไฟฉุกเฉิน สภาพด้านหน้ารถพัง ฝากระโปรงยุบ กระจกหน้าแตก

โดยมี นาย พงษ์ณพัฒน์ อายุ 29 ปี เจ้าของรถยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ห่างกันประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญย 6881 กทม. จอดชิดติดริมฟุตบาท บริเวณกระจกมองข้างด้านขวาหักจนห้อยลงมา ประตูขวาบุบ มี นายณัฐพล อายุ 38 ปี บ้านอยู่ ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ เจ้าของรถยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่

จากการสอบถาม นายณัฐพล ทราบว่า ตนขับรถมาจากฝั่งอำเภอเมืองสมุทรปราการ เพื่อจะไปส่งเอกสารให้กับบ้านลูกค้าย่านพระประแดง ในระหว่างนั้น ตนขับมาในช่องเลนที่ 3 เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายมีสิ่งของมากระทบข้างรถด้านจนกระจกมองข้างหักห้อยลงมา ซึ่งในตอนนั้น ตนไม่ทราบว่ามีคนวิ่งมาชน จึงพยายามขับรถชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อลงไปดู ก่อนที่จะเห็นรถเก๋งอีกคันจอดอยู่กลางถนนในสภาพด้านหน้าพังยับและกระจกแตก จึงรีบเดินมาดูกระทั่งพบว่า มีผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่พบพื้นถนน จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้รีบเดินทางมาช่วยเหลือ

จากการสอบถาม นางสาว กนกอร อายุ 35 ปี บ้านอยู่ ต.ท่าซุง อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี แฟนของผู้เสียชีวิต ที่นั่งร่ำไห้เสียใจอยู่บนเกาะกลางถนนโดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันปฐมพยาบาลอยู่ไม่ห่าง ก่อนที่จะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยน้ำตานองหน้าและสะอื้นตลอดเวลาว่า ผู้เสียชีวิตมีอาชีพเป็นช่างปูกระบะอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนตนทำงานอยู่ที่เดียวกันโดยคบหากันอยู่ไม่ถึงเดือน

ก่อนเกิดเหตุตนและผู้เสียชีวิต เพิ่งเลิกงานกลับมาถึงห้องพักซึ่งอยู่อีกฝากของจุดเกิดเหตุ ได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเรื่องเงินถึงขั้นถูกผู้เสียชีวิตกระโดดถีบ ตนพยายามวิ่งหนีออกมาเพื่อให้ผู้เสียชีวิตสงบสติอารมณ์ ก่อนที่ตนจะวิ่งข้ามถนนมาโบกแท็กซี่เพื่อหนีผู้เสียชีวิต เกรงจะถูกทำร้ายอีก แต่ผู้เสียชีวิตวิ่งตามหลังมา ซึ่งคาดว่าน่าจะมาง้อตน ก่อนที่จะถูกรถชนจนร่างลอยกระเด็นตกลงมากระแทกพื้นเสียชีวิต ตนตกใจทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้และร้องให้คนช่วยแต่ไม่ทันการณ์

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนเชิญตัวคนขับรถทั้ง 2 คันไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจพร้อมมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ก่อนจะประสานญาติให้เดินทางมาติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ รายงาน