
น่าสงสาร! ลูกชายทิ้งแม่วัย 76 ป่วยอัลไซเมอร์ไว้แคมป์ก่อสร้าง ส่งข้าว-น้ำให้แค่ 4 วันก่อนหายเงียบ อยู่ห้องเช่าไม่ได้ บอกเสียงดังและมีกลิ่นตัวแรง
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนพาหญิงชรารายหนึ่งเข้าร้องขอความช่วยเหลือที่ สภ.ชัยพฤกษ์ หลังได้รับความเดือดร้อนจากการที่ถูกลูกชายทิ้งไว้ภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง ย่านคลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยผู้ที่ดูแลอยู่ในแคมป์ไม่สามารถรับภาระได้ต่อ และแคมป์กำลังจะถูกรื้อถอน ต้องย้ายออกจากพื้นที่
โดยหญิงชรารายดังกล่าวทราบชื่อคือ นางสังเวียน ถิ่นที่ หรือ ยายบึ้ง อายุ 76 ปี มีอาการหลงลืม จากโรคอัลไซเมอร์ ไม่สามารถเดินได้ ต้องใช้วิธีถัดก้นในการเคลื่อนไหว พูดคุยไม่รู้เรื่อง วกไปวนมา โดยพูดถึงลูกชายชื่อ จัง ว่าชอบดื่มสุรา และมักทะเลาะกับตนเป็นประจำ แต่ไม่เคยถูกทำร้ายร่างกาย
ภายหลังเกิดเหตุ นายพสิษฐ์ รัศมิ์พยุงกิจ หรือ กำนันไก่ กำนันตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด ได้เดินทางมายัง สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อติดตามสถานการณ์ และพูดคุยกับยาย พร้อมนำอาหารมาให้รับประทาน และได้ประสานงานกับปลัดอำเภอปากเกร็ด เพื่อให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากการสอบถาม น.ส.สรัลพร สังข์เงิน อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของยายบึ้ง และเป็นผู้ช่วยดูแลยายบึ้งมาตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ยายบึ้งเป็นพี่สาวของย่าตน เป็นญาติห่างๆ ซึ่งลูกชายของยายคนที่ชื่อ จัง เคยมาอยู่กับพ่อของตนในแคมป์ก่อสร้าง ก่อนจะถูกไล่ออก เนื่องจากติดสุราและไม่ทำงานประจำ ต่อมา เขาได้งานใหม่เป็น รปภ. เลยพายายไปอยู่ด้วยที่ห้องเช่าในพื้นที่ปากเกร็ด อาศัยอยู่กับเมียของเขา และยายบึ้ง แต่หลังจากอยู่ได้ไม่นาน ก็อ้างว่าเจ้าของห้องไม่ให้ยายอยู่ เพราะส่งเสียงดังและมีกลิ่นตัวแรง จึงนำยายกลับมาทิ้งไว้ที่แคมป์ทำงานของตน ย่านคลองพระอุดม เมื่อช่วงสิ้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา
ตอนที่นายจัง ลูกของยายเอายายกลับมาไว้ที่แคมป์แรกๆ เขายังส่งข้าวให้ตลอด ระยะเวลาประมาณ 3-4 วัน แต่หลังจากนั้น ก็หายไปเลย โทรหาก็ไม่รับ ทักไลน์ไปก็ไม่ตอบ ตอนนี้ พ่อของตนก็ป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่ต้องมาช่วยดูแลยาย ซึ่งเป็นอัลไซเมอร์ เดินไม่ได้ ต้องคลานไปมา ยายไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่ง ถึงจะบอกว่ามีบ้านที่นครสวรรค์ แต่ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว ตนไม่รู้จะทำยังไง เพราะแคมป์ก็จะรื้อแล้ว เราต้องย้ายไปไซต์งานใหม่
ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร ตนเองก็มีครอบครัวและภาระที่จะต้องใช้จ่าย จึงตัดสินใจพูดคุยกับสามี นำตัวยายบึ้ง ขึ้นรถมาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชัยพฤกษ์ ตนอยากให้ลูกของเขามารับคุณยายกลับตนก็เป็นห่วง ไม่อยากให้ยายบึ้ง อยู่สภาพแบบนี้ ตนและทุกคนในแคมป์ช่วยเหลือทุกอย่างแล้ว ทางหัวหน้าก็ให้ข้าวให้น้ำทุกวัน อย่างไรก็ตาม หากมีสำนึกก็ขอให้กลับมารับตัวคุณแม่ไปเลี้ยงดูต่อไป ทางคุณยายจำอะไรไม่ได้โดยจะจำชื่อตัวเองได้ และลูกชายของเขาคือ นายจงที่ ป่วยพิการอยู่ และนายจอน สีพันนา หรือนายจัง คนที่นำตัวยายมาทิ้ง
ส่วนทางด้าน นายเจี้ยม อายุ 16 ปี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายจัง ลูกชายของยาย เคยเป็นลูกน้องของป้าตนในไซต์งาน ก่อนจะพายายมาอยู่ด้วยที่แคมป์ โดยให้เหตุผลว่าจะทำงาน แต่กลับเอาข้าวให้เพียงแค่ 3-4 วัน จากนั้นก็หายตัวไป ป้าของตนซึ่งเป็นผู้รับเหมาจึงต้องดูแลยายทุกวันโดยไม่ได้ตั้งใจ ยายบึ้งพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ชอบพูดถึงลูกชาย ถามหาว่า จังไปไหน แต่พวกเราติดต่อไม่ได้ ไม่มีเบอร์ของจัง มีแค่ป้าที่มีไลน์ แต่พอทักไปก็ไม่อ่านไม่ตอบ ตอนนี้เราไม่รู้จะทำยังไง ยายไม่มีที่อยู่แล้วจริง ๆ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสื่อสาร พูดคุยกับทางนางสังเวียน หรือ ยายบึ้ง ปรากฏว่า คุณยายพูดจาวกไปวนมา พูดไม่รู้เรื่อง และพูดถึงลูกชายชื่อจงชอบกินเหล้า เมา และเถียงกับยายบ่อย แต่ไม่เคยทำร้ายหรือตีตน ซึ่งคุณยายบอกว่ามีบ้านอยู่ที่นครสวรรค์ท่าทางตำรวจยินดีจะไปส่งก็ยอมกลับบ้านเกิดทันที
ขณะที่ พ.ต.อ.วุฒิชัย สุคนธวิท ผกก.ชัยพฤกษ์ ได้สั่งการให้ร้อยเวร ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยจัดพื้นที่ให้ยายได้นั่งพักรอการดำเนินการ พร้อมอำนวยความสะดวกในทุกด้าน หากพบว่ามีการกระทำเข้าข่ายทอดทิ้งผู้สูงอายุ อาจมีการดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดนนทบุรี รายงาน