
สพฐ. ประกาศด่วนถึงทุกโรงเรียน หลังมีผู้ติดโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้น
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทยขณะนี้ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น หลายหมื่นรายต่อสัปดาห์ ต่อมาเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ มีความห่วงใยการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่อาจจะเข้ามาแพร่ระบาดในสถานศึกษาในช่วงนี้ได้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดและ เฝ้าระวังความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาอย่างใกล้ชิด แม้กรมควบคุมโรคยืนยันว่า ตัวเลขการแพร่ระบาดในขณะนี้อยู่ในระดับที่คาดการณ์ไว้และโรคโควิด-19 จะเป็นโรคประจำถิ่น ที่สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี และมีแนวโน้มพบมากขึ้นในช่วงฤดูฝน แต่ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และสถานศึกษาในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศต้องตระหนัก เฝ้าระวัง ป้องกันให้นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาปลอดภัยที่สุด
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา สพฐ.ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ 04001/ ว 3497 เรื่อง กำชับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปยังผู้อำนวยการ สพฐ.ทุกเขต โดยได้มีหนังสือเน้นย้ำแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 แจ้งสถานศึกษาในสังกัดดำเนินการ ดังนี้ 1.ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดให้แก่นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง รวมถึงผู้มาติดต่อราชการในสถานศึกษา 2.เชิญชวนทุกคน ที่เข้ามาในสถานศึกษาสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 3.หมั่นดูแลรักษาความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์ที่นักเรียนใช้ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวอีกว่า 4.หากมีอาการคล้ายเป็นหวัด ให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ หรือหากตรวจพบติดเชื้อโรคโควิด-19 ให้รีบพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา ลดความเสี่ยงและอาการรุนแรง 5.ดำเนินการตามคู่มือ “การเฝ้า ระวังติดตามและแผนเผชิญเหตุรองรับการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสถานศึกษา” 6.ในกรณีสถานศึกษาที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระดับรุนแรง ให้พิจารณาปิดเรียนและจัดการเรียนในรูปแบบต่างๆ เช่น Online, On-Hand, On-Air หรือ On-Demand และ 7.ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผ่านช่องทางระบบ Digital Disease Surveillance (DDS) และสายด่วน กรมควบคุมโรค 1422