ดราม่าสนั่น! หญิงป่วยหนักสิ้นใจที่ธนาคาร หลังจนท. ยืนกราน ต้องไปถอนเงินด้วยตัวเอง เผย ใช้ให้ลูกมาทำเรื่องแล้ว แต่ธนาคารไม่ยอม (ข่าวตปท.)
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศ SOHA ได้มีการรายงานเหตุการณ์ดราม่าที่เกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อธนาคารแห่งหนึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก มองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้หญิงรายหนึ่งต้องสิ้นลมหายใจลงอย่างน่าสลดที่ธนาคาร ภายหลังจากทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารแจ้งว่า เธอผู้เป็นเจ้าของบัญชีต้องมาถอนเงินด้วยเองเท่านั้น ทั้งที่เธอกำลังป่วยหนัก
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่า ชายชื่อสกุลเผิง จากมณฑลหูหนาน ประเทศจีน ได้โพสต์เรื่องราวลงบนโซเชียลด้วยความโกรธแค้น กล่าวหาว่า ระบบการจัดการและดำเนินการของธนาคารการเกษตรแห่งประเทศจีน สาขาเขตซือเฟิง เมืองจูโจว เป็นสาเหตุที่ทำให้ป้าของเขา ซึ่งกำลังป่วยหนัก ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด
โดยนายเผิง เล่าว่า ป้าของเขาป่วยด้วยโรคเรื้อรังหลายชนิดมาเป็นเวลานาน จนเมื่อไม่นานมานี้ เธอเกิดอาการสโตรก ประสบภาวะสมองขาดเลือด จึงได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกลางเมืองจูโจว ในมณฑลหูหนาน เธอจึงได้ให้ลูกสาวของเธอ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเผิง นำบัตรประชาชน พร้อมสมุดบัญชีเงินฝากไปที่ธนาคารดังกล่าวเพื่อถอนเงินจำนวน 50,000 หยวน หรือประมาณ 231,000 บาท เพื่อมาชำระค่ารักษาพยาบาล ที่โรงพยาบาลแห่งแรก ก่อนที่จะส่งเธอไปรับการรักษายังโรงพยาบาลอีกแห่งได้
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งนั้นปฏิเสธไม่ยอมให้ลูกสาวป้าของเผิงถอนเงิน โดยยืนยันว่า ตามกฎระเบียบของทางธนาคาร ผู้เป็นเจ้าของบัญชีตัวจริงเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์ถอนเงินจากบัญชีได้ นั่นหมายความว่า ป้าของเผิงต้องไปถอนเงินที่ธนาคารด้วยตัวเอง ทางลูกสาวของป้าจึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารทราบอย่างชัดเจนว่า แม่ของเธอป่วยหนักและไม่สามารถเดินทางมาที่ธนาคารได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังยืนกรานเช่นเดิม
เมื่อไม่มีทางเลือก ทางครอบครัวป้าของเผิงจึงพาเธอนั่งรถเข็นผู้ป่วยมาที่ธนาคารเพื่อดำเนินการถอนเงิน แต่ทางธนาคารแจ้งว่า ต้องดำเดินการยกเลิกบัญชีเงินฝากประจำ ถึงถอนเงินจำนวนดังกล่าวได้ และใช้เวลาดำเนินการถึง 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. จนเกือบ 18.00 น. ก็ยังไม่แล้วเสร็จ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดเกิดขึ้น เมื่อป้าของเผิงได้สิ้นใจและจากโลกนี้ไปแลลกะทันหัน ในระหว่างรอเงินของเธออยู่ที่หน้าประตูธนาคาร โดยเจ้าหน้าที่แพทย์ของหน่วยฉุกเฉินได้รับแจ้งและมาถึงที่ธนาคาร ก่อนจะยืนยันการเสียชีวิตของเธอ
ทั้งนี้ เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนแรงและถูกวิจารณ์อย่างดุเดือดบนโลกออนไลน์ จนเจ้าหน้าที่ธนาคารสาขาดังกล่าว ต้องได้ออกมาเผยกับสื่อว่า สาเหตุที่ใช้เวลานาน เนื่องจาก หญิงสูงวัยเจ้าของบัญชีต้องเข้ารับการยืนยันตัวตนผ่านระบบจดจำใบหน้า แต่เกิดความล้มเหลว เนื่องจากเธออ่อนแรงเกินกว่าจะกระพริบตา หรือก้มศีรษะได้ตามขั้นตอนที่กำหนด
ต่อมา เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐของเมืองจูโจว ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว กล่าวว่า วันเกิดเหตุตำรวจได้เข้ามาดำเนินการ และยืนยันว่า หญิงสูงวัยรายนี้เสียชีวิตจากอาการป่วยกะทันหัน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน ส่วนตัวแทนทางธนาคารได้กล่าวว่า เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิต และสัญญาว่าจะช่วยเหลือครอบครัวในการแก้ไขปัญหาต่อไป ส่วนเรื่องคดีอยู่ระหว่างดำเนินการ ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยรายละเอียด
สำหรับธนาคารหลายแห่งในประเทศจีน กำหนดให้ต้องใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าในการประมวลผลเพื่อการถอนเงิน ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุเช่นเดียวกัน ครอบครัวต้องเข็นผู้สูงอายุไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงิน โดยมีชายรายหนึ่งเสียชีวิตในปี 2566 และอีกกรณีเมื่อปีที่ผ่านมา
