
สุดเวทนา! ยายวัย 76 อยู่เพียงลำพัง หลังลูกเสียชีวิตไป กินพลาสติกโฟมแทนข้าว อยู่ในบ้านคลุกสิ่งปฏิกูล
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2568 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมด้วย จ่าคิงส์แตงทิม และ ทีมงานสายไหมต้องรอด ประสานเจ้าหน้าที่ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ บ้านเลขที่ 6/276 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ซึ่งมียายอร (นามสมมติ) อายุ 76 ปี อยู่เพียงลำพังที่บ้านหลังดังกล่าว ภายในซอยพหลโยธิน 52 แยก 30
ซึ่ง มีเพื่อนบ้านละแวกดังกล่าว ได้แจ้งเรื่องมายังเพจ สายไหม ต้องรอด ว่ามีหญิงสูงอายุตามที่กล่าวข้างต้น อาศัยอยู่เพียงลำพัง โดยสภาพบ้านนั้น เต็มไปด้วยเศษขยะ และ ข้าวของเครื่องใช้ที่วางทับถม รวมถึงเศษอาหาร และ อุจจาระ , ฉี่ ส่งกลิ่นเหม็น โดยยายนั้นใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว เป็นภาพที่หดหู่ ซ้ำหนักมักจะกินกล่องโฟมถ้วยอาหาร แทนข้าว เป็นที่น่าเวทนา
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านก็มักจะนำข้าวนำอาหารน้ำดื่มมาให้ แต่บางครั้งยายแกก็ไม่กิน ด้วยความที่เห็นแล้วน่าสงสาร จึงอยากให้ทาง สายไหม ต้องรอด ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับยายไปดูแลหรือรักษา เนื่องจากยายนั้นมีอาการหลงๆ ลืมๆ หรือป่วยอัลไซเมอร์ และ พูดจาไม่รู้เรื่องในบางเวลา
วันนี้ จึงพากันเดินทางมายังบ้านหลังดังกล่าว ตามที่ได้รับแจ้ง โดยมีเจ้าหน้าที่จาก กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ , สำนักงานเขตสายไหม ลงตรวจสอบช่วยเหลือ เบื้องต้น ร่วมกัน
นาย เอกภพ เหลืองประเสริฐ เผยว่า เบื้องต้น ได้ประสานไปทางท่านอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ประกันสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยท่านได้ส่งเจ้าหน้าจากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ จากสภาพความเป็นอยู่ดูแล้วคุณยายไม่ควรที่จะอยู่ในสภาพความเป็นอยู่แบบนี้ เพราะมีอาการหลงลืม โดยทราบว่าคุณยายน่าจะอยู่ตรงนี้มาร่วมๆ 30 ปี เพียงลำพัง สามีได้เลิกลากันไปนานแล้ว ยายจำอะไรไม่ค่อยได้ ยังดีที่มีเพื่อนบ้านช่วยเอาข้าวเอาน้ำมาให้ แต่วันใดเมื่อเพื่อนบ้านไม่อยู่ยายก็มักจะเอาโฟมเอาพลาสติกมากิน สวนลูกหลานยายนั้นทราบว่า ยายมีลูกสาวอยู่ 1 คน แต่เสียชีวิตไปแล้ว
โดยได้มอบข้อมูลส่วนตัวคุณยายนั้นให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบ สวนบ้านหลังดังกล่าวนี้ เป็นบ้านของตัวคุณยายเอง ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ฯ ได้นำคุณตัวยายไปคุ้มครองเบื้องต้น และ ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล
อีกส่วนได้ประสานไปยังท่าน ผอ.เขตสายไหม โดยทางสำนักเขตสายไหมแจ้งว่าพรุ่งนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่มาทำความสะอาดบ้านของคุณยายใหม่ ถ้าวันไหนยายได้รับการรักษาแล้วหายดี ก็อาจจะย้ายกลับมาอยู่ที่ตรงนี้
ส่วนอีกหนึ่งข้อมูลที่ทราบมาว่ายายมีที่ดินอยู่แถวดอนเมือง ก็จะทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนั้นตรวจสอบว่ามีจริงไหม เพราะด้วยอาการที่ยายเป็นเกรงว่าอนาคต หากมีที่ดินจริง ที่ปล่อยให้เช่า เกรงว่าจะถูกอ้างเพื่อการครอบครองแบบปรปักษ์ได้ในอนาคต
จ่าคิงส์ แตงทิม เผย เมื่อกี้ที่เดินเข้าไปดูภายในบริเวณบ้าน สภาพบ้านนั้นไม่ถูกสุขลักษณะ มีขยะและสิ่งปฏิกูล รวมถึงเศษอาหาร ที่บูดเน่าเสีย วันนี้ก็คงต้องทำตามขั้นตอน และ อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง สำนักงานเขตสายไหม หรือทาง พม. ได้ดำเนินการ โดยวันนี้ได้มาร่วมกับทาง เพจสายไหม ต้องรอด โดย คุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ เพื่อร่วมช่วยกันช่วยเหลือยาย ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เดี๋ยวให้ทาง คุณเอกภพฯ นั้นเป็นคนพูด
ทางด้านเจ้าหน้าที่ จากกรมกิจการผู้สูงอายุ นางสาวพัฒนาวดี ธรรมรัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการกลุ่มคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือผู้สูงอายุ พม. เผยว่า เบื้องต้นจะนำตัวคุณยายท่านนี้ส่งรักษาเบื้องต้น ยัง โรงพยาบาลภูมิพล ตามสิทธิ์ที่ยายมี ก่อนจะนำไปพักรักษาต่อในความคุ้มครองของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสถานสงเคราะห์ของกระทรวง โดยจะทำตามขบวนการขั้นตอนที่มีขอบเขตในการดำเนินการได้
ส่วนที่ว่ายายนั้นมีการกินโฟมกินพลาสติก ก็จะส่งยายไปตรวจสุขภาพโดยละเอียด จากการพูดคุยในวันนี้ลักษณะของคุณยายเบื้องต้นยายยังมีสภาพจิตใจที่ยิ้มแย้มพูดคุยอยู่บ้าง แต่ถ้าพูดถามชื่อ หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล คุณยายนั้นจะตอบไม่ถูก หรือ ตอบไม่รู้เรื่อง ไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้ แต่ถ้าถามเรื่องทั่วไป ในที่ที่คุณยายเคยไป หรือชอบ ก็สามารถที่จะพูดคุยโต้ตอบได้ สีหน้าคุณยายนั้นค่อนข้างจะสดใสแจ่มใสยิ้มปกติ
ส่วน คุณภัทร์ เพื่อนบ้านข้างเคียง เล่าว่า ยายแกเป็นคนที่นี่ เป็นคนดั้งเดิม เวลามีอะไร คนแถวนี้จะรู้จักแกหมด สำหรับคุณภัทร์ เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน เพราะลูกมาเรียนอยู่ละแวกนี้ ส่วนใหญ่ก็จะแบ่งปันและมักเอาข้าวเอาน้ำดื่มไปให้คุณยายอยู่บ่อยๆ หรือ อะไรที่พอจะช่วยได้ก็จะช่วย ซึ่งบางครั้งตอนกลางคืน ก็จะเห็นยายแอบออกไปข้างนอก แล้ว จะกลับมาตอนเช้า ส่วนใหญ่ที่ยายเขาออกไป มักจะกลับมาเองไม่เป็น จะเป็นผู้คนละแวกนี้ เมื่อพบเห็น ก็จะโทรแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ กู้ภัย ให้ช่วยพากลับมาส่งที่บ้าน
ส่วนสภาพกลิ่น คือ มีความจำเป็นพวกเราก็ต้องอยู่กับแก ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของคนแก่ ที่หลงๆลืมๆ เราก็ช่วยกันเท่าที่พอจะช่วยได้ ก็เป็นห่วงแก อยู่ลึกๆ เหมือนกัน ส่วนเรื่องอาหารการกิน ส่วนใหญ่แกไม่อด เพราะคนละแวกนี้ ก็เป็นห่วงและนำมาให้อยู่บ่อยครั้ง แต่ที่เป็นปัญหา คือ เรื่องขยะที่อยู่ภายในบ้าน และ กลิ่นต่างๆ ที่เกิดจากสิ่งปฏิกูลที่แกถ่ายโดยไม่รู้ตัว รวมถึงการกินพวกพลาสติกและกล่องโฟม ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้ นวันนี้ก็รู้สึกดีใจที่ทางเจ้าหน้าที่ ได้มาช่วยดูแล และ นำแกไปรักษาเบื้องต้น ต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ด้วย
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน