
น้ำตาคลอ เมียคืนดี พลทหารกองบินอุดรฯ เลิกกันเพราะโดนนายใช้ไปขี่ไรเดอร์กรุงเทพฯ ชื่นใจได้กอดลูก
วันที่ 16 พ.ค.2568 จากกรณี กองทัพอากาศ สั่งย้าย รองผู้บังคับกองพันนายหนึ่ง สังกัดกองบิน 23 อุดรธานี พร้อมสั่งสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีใช้พลทหารไปขับรถรับส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชันที่กรุงเทพฯ เพื่อหาประโยชน์ส่วนตัว ขณะที่ผู้พันกองบิน 23 บินตรงจากอุดรธานี ไปรับพลทหารขับไรเดอร์กลับต้นสังกัดที่จ.อุดรธานีแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา
ล่าสุดเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.30 น. น.อ.เอกรักพงศ์ เถื่อนนาดี เสนาธิการกองบิน 23 และน.ท.ทวิช ธรรมปรีชา ผู้บังคับกองพันทหารอากาศโยธิน กองบิน 23 พาพลทหารเบส เดินทางไปที่บ้านน.ส.เอ้ ภรรยาที่ต.สะแบง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เพื่อให้พลทหารเบสปรับความเข้าใจกับภรรยา หลังทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องพลทหารเบสถูกกดดันเรื่องเงินทำยอดจากการถูกส่งไปขับไรเดอร์ทำให้ต้องยืมเงินภรรยาไปปิดยอดให้เจ้านาย สุดท้ายต้องแยกทางกัน
โดยเมื่อไปถึง พลทหารเบสได้ถือช่อกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ซ่อนไว้ด้านหลังเดินเข้าไปหาภรรยา ที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 5 เดือนอยู่ ก่อนยื่นช่อกุหลาบออกมาให้ เมื่อภรรยาเห็นกุหลาบก็ตกใจเล็กน้อยแต่ยิ้ม จากนั้นพลทหารเบสคุกเข่ามอบช่อกุหลาบให้
พร้อมบอกว่า เบสขอโทษนะ ที่โกหก ยังคิดถึงลูกและเมีย ให้อภัยเบสนะ ทำให้ภรรยาถึงกับน้ำตาคลอ ก่อนพยักหน้ารับช่อดอกไม้ จากนั้นพลทหารเบสได้ขออุ้มชายด้วยความคิดถึงซึ่งเป็นการอุ้มลูกในรอบ 3 เดือนพร้อมบรรจงหอมแก้มภรรยาที่ให้อภัยอย่างมีความสุข ท่ามกลางเสียงปรบมือเชียร์สนั่นบ้าน
น้องเอ้ บอกว่า ให้อภัยค่ะ รักเหมือนเดิม เรื่องที่ผ่านมาเข้าใจสามีแล้ว ขณะที่พลทหารเบสก็บอกว่า ดีใจที่ภรรยาเข้าใจ จะไม่โกหกและต่อไปจะตั้งใจทำงานเป็นพลทหาร จบทหารก็จะมาอยู่บ้านทำอาชีพสร้างครอบครัวเล็กๆ ให้อบอุ่นต่อไป
จากนั้น น.อ.รักพงศ์ เถื่อนนาดี เสนาธิการกองบิน 23 ได้มอบแพมเพิร์ส นมให้กับน้องอะตอม ลูกชายวัย 5 เดือนของพลทหารเบส พร้อมให้กำลังใจ บอกว่า ภรรยาคิดถึงก็สามารถไปเยี่ยมที่กองบิน 23 ได้ โดยตอนนี้ให้พลทหารเบสได้ลาพักผ่อนอยู่กับภรรยา 7 วัน ก่อนกลับเข้าทำงานที่กองบิน 23 ต่อไป