
พระมรณภาพปริศนาใต้โบสถ์ มีถุงดำครอบศีรษะ รัดซ้ำด้วยสายสิญจน์
วันที่ 8 พ.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัมพวา ได้รับแจ้งว่า มีพระสงฆ์มรณภาพภายในวัดแห่งหนึ่ง ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นพ.สิทธิโชค จิติวงศ์ ผอ.รพ.อัมพวา และ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสรรพราเชนทร์(สมุทรสงคราม)
ที่เกิดเหตุ อยู่ใต้อุโบสถ์ซึ่งกั้นเป็นกุฏิพักสงฆ์ พบสรีระพระสงฆ์ อายุ 70 ปี สวมสบง และอังษะ นอนหงายมรณภาพบนเสื่อ สภาพแขนขวาวางบนหน้าท้อง แขนซ้ายวางข้างลำตัว แต่พบลักษณะมีพิรุธที่ผิดสังเกตคือ ใช้ถุงดำสวมศีรษะ รัดด้วยสายสิญจน์ไหม 5 สี ใช้หมอนทับใบหน้า จนท.ได้ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุอย่างละเอียด และเก็บพยานหลักฐานต่าง ๆ
โดยมีนางพันธุ์ทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 72 ปี พี่สาว และลูกสาวผู้เสียชีวิต มายืนรอศพ อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่นำสรีระร่างพระสงฆ์ดังกล่าวออกมาจากกุฏิ นางพันธุ์ทิพย์ได้โผเข้ากอด พร้อมพูดว่า เดี่ยวไปรับกลับมานะ กลับบ้านกัน ไปอยู่กับพ่อกับแม่นะ ขณะที่ลูกสาวกอดอยู่ที่ปลายเท้า ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า
จากการสอบถาม นางพันธุ์ทิพย์ กล่าวว่า พระรูปดังกล่าว บวชมาแล้วกว่า 20 ปี แต่มาระยะหลังป่วยเป็น โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมีอาการสโตก แขนซีกซ้ายอ่อนแรง ทางบ้านจึงพาไปรักษาจนหาย และนิมนต์กลับวัดเมื่อต้นปี 2568 แต่ด้วยความที่พระบุญมั่นป่วย จึงขออนุญาติทางวัดติดแอร์ในกุฏิที่อยู่ใต้โบสถ์ ซึ่งตนไม่คิดว่า จะคิดสั้นจบชีวิตจากอาการป่วย เพราะไม่เช่นนั้น ท่านคงทำไปนานแล้ว ในช่วงที่อาการหนักและรักษาตัว
แต่หากถามถึงสาเหตุอื่นในจบชีวิตตัวเอง ตนก็พอนึกออกว่า อาจจะมาจากความเครียดที่ตั้งแต่พระกลับวัดก็ถูกกลั่นแกล้งมาตลอด ตั้งแต่ติดแอร์ก็มีพระรูปนึง ไปบอกกับญาติโยมว่า พระวัดนี้รวยมีเงินติดแอร์ ไม่ต้องมาทำบุญ ต่อมา เมื่อปลายเดือนเมษายน 2568 ก็ถูกแกล้งนำไม้ไปเสียบคอมเพสเซอร์แอร์ ทำให้แอร์เสีย ซึ่งตนก็ต้องซ่อมให้ และยังมีอาการรวนเป็นระยะ ๆ จนพระน้องชาย เคยบ่นกับตนว่า เขาจะมาแกล้งอีกไหม ตนอยากรู้ว่าทำไมพระรูปนี้ต้องมาแกล้งกันด้วย และ ที่พระมรณภาพนี้ สะใจไหม ตนติดใจอยากรู้คำตอบจากพระรูปนี้ที่ตนเชื่อว่าทำให้น้องชายตนเครียด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยบการต่อสู้ ไม่พบว่าใครเข้าไปในบริเวณจุดเกิดเหตุ อีกทั้งยังพบประวัติป่วยเป็น โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมีอาการสโตก แขนซีกซ้ายอ่อนแรง เบื้องต้น สันนิษฐานว่าพระรูปดังกล่าว อาจจะเลือกคิดสั้น ก็เป็นได้ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นฆาตกรรม จึงได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียด ที่แผนกนิติเวช รพ.ราชบุรี และประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ารวบรวบพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อตอบข้อสงสัยจากสังคมว่า พระบุญมั่นมรณภาพด้วยสาเหตุอะไรกันแน่ และจะนำมาประกอบสำนวนเพื่อสรุปการมรณภาพที่แท้จริงต่อไป