สาวแสบ โพสต์ปล่อยเช่าบ้านทั้งที่ไม่ใช่ของตัวเอง ได้เงินมัดจำปุ๊บ หายเข้ากลีบเมฆ

สาวแสบ โพสต์ปล่อยเช่าบ้านทั้งที่ไม่ใช่ของตัวเอง ได้เงินมัดจำปุ๊บ หายเข้ากลีบเมฆ

นางสาวพลอยไพรินทร์ แสงปลั่ง อายุ 25 ปี หญิงผู้เสียหาย ร้องขอความเป็นธรรมกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกหลอกให้โอนเงินมัดจำค่าเช่าบ้านจำนวน 21,000 บาท โดยพบว่าอีกฝ่ายไม่มีสิทธิ์ในการให้เช่าบ้านหลังดังกล่าว และมีประวัติเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา พบโพสต์ของหญิงรายหนึ่งในกลุ่มเฟซบุ๊ก (บ้านเช่า รังสิต คลองหลวง คลองหนึ่ง - คลองสาม)

ระบุว่ามีบ้านให้เช่าในพื้นที่คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จากนั้นจึงนัดเข้าไปดูบ้านในวันเดียวกัน ซึ่งก็มีคนอื่นๆไปดูด้วยเช่นกัน เมื่อตนไปถึงพบว่าภายในบ้านดูสะอาดและเหมาะกับการอยู่อาศัย เจ้าของบ้านก็บอกว่าหากใครพร้อมโอนก็จะได้เช่าบ้านหลังดังกล่าว และตนมาคิวแรก จึงตัดสินใจโอนเงินมัดจำล่วงหน้า 2 เดือน 14,000 และค่าเช่าล่วงหน้าอีก 1 เดือน 7,000บาท รวมเป็นเงิน 21,000 บาท โดยตั้งใจจะย้ายเข้าอยู่ในวันที่ 1 พฤษภาคม เนื่องจากน้องสาวของผู้เสียหายซึ่งตั้งครรภ์8เดือนใกล้คลอด ต้องการบ้านเช่าเพื่อเลี้ยงลูก

อย่างไรก็ตาม หลังโอนเงินเสร็จทันที หญิงคนดังกล่าวที่ให้เช่าบ้านกลับแจ้งว่าบ้านยังไม่มีมิเตอร์ไฟฟ้า และนางสาวพลอยต้องแจ้งล่วงหน้า 2 วันเพื่อให้การไฟฟ้าเข้าติดตั้ง นางสาวพลอยผู้เสียหายจึงแจ้งว่าจะเข้าใช้ไฟและทำความสะอาดในวันที่ 28 เมษายน แต่เมื่อถึงวันนัดกลับไม่มีการติดตั้งแต่อย่างใด โดยอีกฝ่ายอ้างว่าฝนตกหรือการไฟฟ้าไม่มาติดต่อ เมื่อสอบถามไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มบ่ายเบี่ยง จนสุดท้ายผู้เสียหายโทรสอบถามไปยังการไฟฟ้าโดยตรง และพบว่า “ไม่เคยมีการแจ้งขอติดตั้งมิเตอร์จากบุคคลใดเลย” และบ้านหลังนี้ขาดการติดต่อจากไฟฟ้าตั้งแต่เดือนมกราคม

เมื่อตนทราบอย่างนั้น จึงบอกเจ้าของบ้านว่าหากจะไม่ติดมิเตอร์ไฟให้จะขอเงินคืน อีกฝ่ายกลับอ้างว่าจะให้ทนายความติดต่อ โดยทนายโทรมาย้ำว่าผู้เสียหายเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญา และหากจะเข้าอยู่ต้องทำสัญญาใหม่และวางเงินเพิ่ม พร้อมขู่ว่า หากเข้าไปในบ้านจะถือว่าบุกรุก

ผู้เสียหายจึงตัดสินใจตรวจสอบชื่อเจ้าของบ้านกับกรมที่ดิน พบว่า ชื่อเจ้าของบ้านตัวจริงไม่ตรงกับชื่อหญิงผู้ปล่อยเช่า และหลังจากที่โพสต์เรื่องราวลงในเพจสังคมต่าง ๆ ก็มีพลเมืองดีหลายรายทักเข้ามาแจ้งว่า เคยถูกหญิงรายเดียวกันหลอกในลักษณะคล้ายกัน รวมถึงมีประวัติหลอกขายนมผงเด็กอย่างน้อย 2 เคส

หลังจากตนรวบรวมหลักฐานไปหากรมที่ดิน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเมื่อวันที่5 พค. ที่ผ่านมา ที่ สภ.คลองหลวง พร้อมมอบหลักฐานการโอนเงิน บทสนทนา และคลิปเสียงการพูดคุยกับทนายให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งทางเจ้าของบ้านก็ยังอ้างว่าเป็นบ้านของตนเอง และบอกอีกว่าพร้อมสู้คดี

น.ส.พลอยทิ้งท้ายว่า เงินที่เสียไปเป็นเงินที่ตนทำงานเก็บมานาน เตรียมไว้ให้น้องคลอดลูก ตนแค่อยากให้บ้านให้เขาอยู่สบาย ๆ ไม่คิดว่าจะโดนแบบนี้ อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ และอยากได้เงินคืน และขอให้สังคมช่วยจับตาพฤติกรรมของหญิงรายนี้ เพื่อไม่ให้ไปหลอกลวงประชาชนคนอื่นอีก

อีกทั้งน้องตนที่ตอนแรกได้มีการฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต เพราะใกล้ที่ทำงาน แต่ทีนี้ต้องเปลี่ยนโรงพยาบาลเพราะเงินส่วนนึงอยู่กับหญิงคนดังกล่าง ทำให้ต้องย้ายโรงพยาบาลไปคลอดที่โรงพยาบาลปทุมธานี โดยใช้บัตรทอง30บาทรักษาฟรี

ทางด้านของ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สถานีตำรวจคลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนเองได้ประสานไปยังผู้กำกับ สภ.คลองหลวง ให้เร่งดำเนินคดีเนื่องจาก คดีเช่าบ้านในพื้นที่ปทุมธานี ถือว่าช่วงที่ผ่านมา มีผู้เสียหายมาร้องเป็นจำนวนมาก และฝากถึงทนายความ คนถืออาชีพทนายความควรมีสามัญสำนึกที่ดี สิ่งที่คุณทำคนอื่นดูออก หากคุณรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ให้บอกให้เขาเอาเงินมาคืน เนื่องจากผิดสัญญาแต่แรก เนื่องจากผู้เช่าไม่ได้ตามข้อตกลงก็ควรที่จะเอาเงินมาคืน ไม่ควรที่จะมาเล่นดึงเวลาแบบนี้

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ