วันที่ 6 พ.ค.68 เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) จากกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา จำนวน 3 นาย ได้เดินทางลงพื้นที่เข้าตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด ที่บริเวณริมรั้วภายในร้านลาบเมืองฉะฯ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 319 พนมสารคาม-ปราจีนบุรี เขตพื้นที่หมู่บ้านหัวกระพี้ เลขที่ 194/4 ม.10 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หลังได้รับการประสานงานจาก พ.ต.ท.พิสิฐชัย เลิศบารมี รอง ผกก.งานป้องกันและปราบปราม สภ.พนมสารคาม และ ร.ต.ท.หญิง สุชานันท์ พรหมมะ รองสารวัตรเวรสอบสวนว่า ได้รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิดภายในร้านดังกล่าว

หลังเจ้าหน้าที่ EOD เข้าทำการตรวจสอบพร้อมยืนยันว่า เป็นวัตถุระเบิดของจริงชนิดขว้างด้วยมือแบบลูกเกลี้ยงสภาพใหม่พร้อมใช้ งานประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกหูหิ้วสีขาวขุ่น โดยมียางล้อรถยนต์ที่ทางเจ้าของร้านได้นำมาวางครอบสวมเอาไว้แล้วก่อนหน้า จากนั้น จนท.EOD ได้ตัดสินใจเดินสายวางเชื้อปะทุ เพื่อจุดนวนนำระเบิดทำลายทิ้งในทันที เนื่องจากเป็นพื้นที่โล่งแจ้ง ใกล้กับแนวรั้วบ้านติดอยู่กับท้องนาข้าว

แต่หลังจากทำการจุดชนวนเชื้อปะทุนำการระเบิดถึงจำนวน 2 ครั้งแล้ว ระเบิดตัวนำการระเบิดกลับไม่ทำงาน ประกอบสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบลูกระเบิดเริ่มมีสภาพมืดค่ำ จึงได้ตัดสินใจทำการเก็บกู้นำลูกระเบิดดังกล่าว กลับไปทำลายทิ้งยังในที่ปลอดภัยต่อไป เมื่อเวลา 19.30 น. สอบถามนายบุญเรือง ผาวันดี อายุ 74 ปี เจ้าของร้านลาบผู้พบวัตถุระเบิดลูกดังกล่าว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ว่าจ้างช่างงานคอนกรีตมาทำรั้วบ้าน เพื่อป้องกันสุนัขเข้ามาไล่กัดไก่ภายในบริเวณบ้าน และยังใช้เพื่อป้องกันต้นทุเรียนที่เพิ่งปลูกใหม่ได้ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาอีกจำนวน 4 ต้นที่ด้านหลังบ้าน

ต่อมา ได้เดินไปยังพื้นที่ใกล้กับแนวรั้ว เพื่อดูความคืบหน้าของงานช่างที่กำลังทำการสร้างรั้วอยู่นั้น ได้สังเกตเห็นว่ามีถูกพลาสติกแบบหูหิ้วสีใสแต่อาจจะถูกวางเอาไว้เป็นเวลานานแล้วจึงเริ่มขุ่นมัวลักษณะมีการผูกมัดปากถุงรัดเอาไว้แน่น ก่อนที่จะหยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่าภายในถุงมีน้ำหนักมากอย่างผิดปกติ เมื่อใช้มือจับคลำดูแล้ว พบว่ามีลักษณะของกระเดื่องของลูกระเบิดติดอยู่กับก้อนวัตถุน้ำหนักมากนั้นด้วย จึงได้รีบนำกลับไปวางทิ้งไว้ และได้แจ้งไปยังทาง จนท,ตำรวจให้ทราบดังกล่าว

โดยตนเองนั้นไม่ทราบว่าระเบิดลูกนี้เข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และถูกนำมาวางทิ้งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อใด แต่คาดว่าอาจจะนานเป็นเดือนแล้วจากสภาพของถุงที่ดูเก่ามาก โดยตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน และไม่ได้เล่นการเมือง ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเมืองท้องถิ่น ที่เขากำลังจะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านซ่อง ที่กำลังมีการหาเสียงกันอยู่ในขณะนี้อย่างเข้มข้นแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวจังหวัดฉะเชิงเทรา รายงาน