เวลา 21.00 น. วันที่ 14 ก.พ.68 นายยุทธนา วงษ์บุตรอด อายุ 40 ปี หัวหน้าอาสาสมัครสมาคมกู้ชีพบัวเพชร จ.นนทบุรี นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังรถของสมาคมกู้ชีพบัวเพชร ถูกคนร้ายใช้ของมีคมกรีดตัวรถจนได้รับความเสียหายจำนวน 2 คัน เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.48 น.วันที่ 14 ก.พ.68  

ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อเวลา 04.48 น. คนก่อเหตุเป็นชาย ขี่รถ จยย.ออกมาจากซอยข้างร้านสะดวกซื้อซึ่งมีรถกู้ชีพของสมาคมบัวเพชร จอดรถอยู่ลานจอดรถด้านหน้า จากนั้นคนก่อเหตุได้จอดรถ จยย.แล้วเดินไปที่รถกู้ชีพพร้อมกับล้วงของมีคมไม่ทราบชนิดจากนั้นก็กรีดไปที่ประตูรถตู้ 3 ครั้ง ก่อนเดินกลับมาที่รถจยย.พร้อมกับขวดน้ำแล้วขับรถออกไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ต่อมาเมื่อเวลา 05.23 น. กล้องวงจรปิดจับภาพชายก่อเหตุรายเดิมเดินเข้ามาตรงปากซอย แล้วเดินไปที่ด้านหลังรถกู้ชีพอีกครั้งและลงมือทำอะไรบางอย่างกับรถกู้ชีพก่อนจะเดินหลบหนีหายเข้าไปในซอย

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับนายยุทธนา ผู้เสียหาย โดยพบว่าที่บริเวณลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อในซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบรถกู้ชีพของสมาคมกู้ชีพบัวเพชร จำนวน 2 คันจอดอยู่ คันแรกเป็นรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นhiace  ทะเบียน ฒค 4869 กทม. ประตูเลื่อนข้างซ้ายถูกของมีคมกรีด 3 เส้น ความยาวประมาณ 30-50 ซม. ส่วนคันที่ 2 ยี่ห้อโตโยต้า คอมมูเตอร์ ทะเบียน 3ขก70 กทม.ฝากระโปรงหลังถูกกรีด 2 เส้น ยาวประมาณ 8-10 ซม. ซึ่งข้างรถด้านซ้ายติดสติ๊กเกอร์ของนายอำนาจ เรืองสำราญ หรือ โก๊ะ ท่าทราย นายกสมาคมกู้ชีพบัวเพชร ถูกกรีดหน้า 1 เส้น ยาวประมาณ 10 ซม. โดยรอยกรีดทั้งหมดลึกถึงตัวรถและยังทำให้กระจกเป็นรอยอีกด้วย

จากการสอบถาม น.ส.อิ๋ว (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี แม่ค้าขายบะหมี่ที่ลานจอดรถเปิดเผยว่า ที่ร้านของตนเคยถูกชายคนดังกล่าวเข้ามาอาละวาดทำลายข้าวของไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งคนก่อเหตุเป็นคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุกรีดรถกู้ชีพเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยชายคนดังกล่าวพักอาศัยอยู่ในห้องเช่าในซอยนี้ อายุประมาณ 30 ปี  ลักษณะเหมือนคนหลอนยา ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเขาเมาเหล้าหรือเสพยาเสพติดหรือไม่ แต่รู้สึกว่าเขาน่ากลัวมาก ยิ่งเวลาที่อยู่ร้านเพียงลำพัง เขาจะมายืนจ้องหน้าซึ่งตนไม่เคยมีเรื่องมีราวอะไรกับเขามาก่อน เบื้องต้นยังไม่รู้สาเหตุว่าทำไมเขาถึงเข้ามาทำลายข้าวของในร้านของตน นอกจากนี้ยังทราบจากพนักงานร้านสะดวกอีกด้วยว่า ชายคนดังกล่าวเคยเข้าไปอาละวาดทำลายข้าวของในร้านสะดวกซื้อ แต่ตนกับทางร้านสะดวกซื้อก็ไม่ได้แจ้งความ ก็ไม่คิดว่าเขาจะอาละวาดหรือหลอนยาไปกรีดรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีก เขาเป็นบุคคลที่น่ากลัวและอันตรายกับคนในซอยเป็นอย่างมาก ซึ่งแฟนของตนยังบอกอีกว่าเขาชอบพกอาวุธลักษณะเหมือนขวานติดตัวอยู่ตลอดเวลา    

ทางด้านนายยุทธนา วงษ์บุตรอด หัวหน้าอาสาสมัครกู้ชีพบัวเพชร กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องรถสมาคมฯถูกคนร้ายกรีด โดยเมื่อเวลา 21.00 น. กรีดรถจนได้รับความเสียหายในช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 04.30 ถึง 05.30 น. เมื่อตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเดินมาที่ท้ายรถน่าจะเอาอาวุธเป็นมีดคัทเตอร์กรีดที่ท้ายรถ แล้วเดินอ้อมมากีดสติ๊กเกอร์ข้างรถซึ่งเป็นรูปของนายอำนาจ หรือ โก๊ะ ท่าทราย นายกสมาคมกู้ชีพบัวเพชรเป็นทางยาวอีก 1 แผล

ซึ่งหลังเกิดเรื่องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนร้ายไปสอบสวนก่อนที่ตนจะเดินทางไปแจ้งความ โดยคนร้ายบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาแค้นใจที่ไปมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นในซอยมาจนเขาได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยพาเขาไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งเมื่อคืนนี้ก็ไม่มีแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือว่ามีคนถูกทำร้ายร่างกายเลยสักเคส ตนก็ไม่รู้ว่าเขาไปถูกใครที่ไหนทำร้ายมา เมื่อหมดเวลาเข้าเวรตนก็ขับรถกู้ชีพมาจอดที่ลานจอดรถหน้าสะดวกซื้อ ที่บ้านตนก็อยู่ติดกัน ซึ่งตนก็จอดตรงนี้มานานนับ 10 สิบปีก็ไม่เคยมีเหตุอะไร เพราะคนส่วนใหญ่ก็รู้ว่าเป็นรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เสียสละช่วยเหลือสังคม

ตนยอมรับว่างงมากกับเหตุผลของคนก่อเหตุที่บอกว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่ช่วยเหลือเขา จนทำให้เขาคับแค้นใจแล้วมาลงมือก่อเหตุถึง 2 รอบ  ซึ่งเรื่องนี้หลังจากนายกสมาคมกู้ชีพบัวเพชรทราบเรื่องแล้ว สั่งให้ตนนำหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุดในทันที เพราะรถกู้ชีพทั้งสองคันถือเป็นทรัพย์สินของสมาคมกู้ชีพบัวเพชรที่ทำงานช่วยเหลือสังคม ไม่ควรมาถูกทำลายให้ได้รับความเสียหายในลักษณะนี้ ซึ่งตนได้นำรถทั้งสองคันไปประเมินค่าซ่อมทำสีมาแล้ว ราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท

นายยุทธนา กล่าวอีกว่า จากการสอบถามชาวบ้านในซอยดังกล่าว ทราบชื่อเล่นคนก่อเหตุคือนายเบียร์ หรือ เบียร์บ้า อายุประมาณ 30 ปี มีพฤติกรรมเมาอาละวาดเป็นประจำและชอบพกอาวุธติดตัว บางครั้งเหมือนเมาจัดจะใช้อาวุธออกมาไล่ฟันไล่ทำร้ายคนแถวนี้ แม้แต่ในร้านสะดวกซื้อก็ถูกชายคนนี้เข้าไปทำลายข้าวของมาแล้ว ซึ่งตนเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้คนในชุมชนเป็นอย่างมาก เพราะเขาชอบพกอาวุธติดตัวเป็นประจำ ในวันนี้อาจจะแค่ทำลายข้าวของ ทำลายทรัพย์สินของคนอื่น แต่วันหน้าใครจะแน่ใจว่าเขาจะไม่ไปลงมือทำร้ายคนอื่นจนบาดเจ็บล้มตาย อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับบุคคลที่เป็นอันตรายกับสังคมอย่างจริงจัง    

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.อิ๋ว แม่ค้าขายบะหมี่เกี๊ยวว่า พบเห็นนายเบียร์กลับมาป้วนเปี้ยนขี่รถ จยย.เข้าออกในซอยอีกครั้ง หลังเพิ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปทำการสอบสวนเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา สร้างความหวาดผวาให้กับแม่ค้ารายดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะเกรงว่านายเบียร์บ้าจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดไบ่ทำลายข้าวของคนในชุมชนอีก

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นนทบุรี รายงาน