เมื่อวันที่ 20 ม.ค.68  นายณัฐพศุตฒ์ โชติจิรศิริกุล นายอำเภอซับใหญ่ ได้รับร้องเรียนจากพระขันติวโร รักษาการเจ้าอาวาสวัด และมัคนายกวัดบ้านวังรังพร้อมบ้านวังรัง หมู่ 8 ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ว่าไม่สามารถนำเงินที่ได้จากการทอดกฐิน ที่ผ่านมาจำนวน 40,000 บาท ซึ่งมีผู้นำชุมชนนำไปถือไว้ และเมื่อทางวัดจตะขอเบิกมาดำเนินการจัดงาน บุญผะเหวด ซึ่งทางวัดและชาวบ้านจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1-2 ก.พ.นี้ แต่ไม่สามารถขอเบิกเงินออกมาใช้ได้ ดังนั้นวันนี้พระสงฆ์และชาวบ้านจึงได้มายื่นหนังสือต่อนายอำเภอ เพื่อช่วยแก้ไขและตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเงินจำนวนดังกล่าวยังอยู่ครบหรือไม่อย่างไรทำไมถึงเบิกไม่ได้ พร้อมกันชาวบ้านยังเผยอีกว่ามีสิ่งของภายในวัดบางอย่างที่ผู้นำดังกล่าวนำไปใช้ส่วนตัวที่บ้านและไม่ยอมเอามาคืนวัด ดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งทางนายอำเภอได้รับหนังสือจากชาวบ้าน พร้อมรับปากจะเร่งดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ถูกต้องเพื่อให้ชาวบ้านสบายใจโดยจะเรียกผู้นำชุมชนดังกล่าวมาสอบถามข้อเท็จจริงและทำการแต่งตั้งคนดูและเงินวัดดังกล่าวให้ชัดเจนตามระเบียบทางวัดต่อไป

ขณะเดียวกันผู้นำชุมชนที่ถูกชาวบ้านร้องเรียนก็ได้เปิดเผยด้วยวาจาต่อผู้สื่อข่าวว่า เงินจำนวนดังกล่าว ยังอยู่ที่ตนไม่ได้หายไปไหน แต่ที่ตนยังไม่ยอมให้เบิกนั้นได้ยินมาว่าพระดังกล่าวจะไม่อยู่วัดแล้ว ตนจึงยังไม่ยอมให้เงินไปเกรงว่าเงินวัดจะหายไปเพราะตนเป็นผู้นำ ก็ต้องดูแลผลประโยชน์ในชุมชนนี้ ส่วนของวัดซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ชาวบ้านนั้นตนได้เอามาจริง โดยขอยืมมาใช้ก่อนเพราะระยะนั้นตนทำบ้านแต่ของหมดตรงวันหยุดจึงหาซื้อไม่ได้ ซึ่งตนเองก็จะซื้อคืนอยู่แต่ยังไม่ได้คืนเพราะเห็นว่าวัดยังไม่ได้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าว ยอมรับว่าในสังคมย่อมมีคนรักและมีคนชังตนจะนำเอาเหตุการณ์นี้ไปแก้ไขให้ดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ชัยภูมิ รายงาน