หมอออกมาเตือน ของใช้ในบ้านที่เป็นพิษที่สุด ชี้คนมากมายใช้กันในปัจจุบัน แนะนำให้โยนทิ้งไปซะ (ข่าวตปท.)
ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่หลาย ๆ บ้านจะประสบปัญหาเกี่ยวกับกลิ่นตกค้าง ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นจากอาหารที่อบอวลข้ามคืน หรือแม้กระทั่งกลิ่นของสัตว์เลี้ยง เพราะฉะนั้นหลายคนจึงแก้ปัญหาด้วยการลงทุนซื้อผลิตภัณฑ์ปรับอากาศมาใช้ในบ้านเรือน เพื่อให้มั่นใจว่ากลิ่นไม่พึงประสงค์จะหายไปและมีความหอมสดชื่นเข้ามาแทน
แต่อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.เปดี มิร์ดามาดี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมชาติบำบัด จากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่มักจะออกมาให้คำแนะนำด้านสุขภาพผ่านแอปฯ TikTok ได้เตือนถึงของภายในครัวเรือนชิ้นหนึ่ง ที่มีความเป็นพิษมากที่สุดในบ้าน ซึ่งของดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายใช้กันเป็นประจำทุกวัน และเขาแนะนำว่าควรจะหยุดใช้และโยนมันทิ้งไปทันที
โดยเรื่องนี้มีที่มาจาก เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ต่างประเทศ Unilad รายงานว่า ในคลิปหนึ่งของ ดร.เปดี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 เขาได้ออกมาอธิบายว่า ของที่คนใช้กันในครัวเรือนบางอย่าง อาจเชื่อมโยงกับอาการคันตาหรืออาการภูมิแพ้ ในกรณีเลวร้ายที่สุด ยังทำให้เกิดอาการหอบหืดรุนแรงอีกด้วย ซึ่งของชิ้นนั้นก็คือ น้ำหอมปรับอากาศแบบเสียบปลั๊ก ที่ผู้คนใช้กันโดยทั่วไปในสหรัฐฯ
เนื่องจาก ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จำนวนมาก มีสารเคมีที่เป็นพิษ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde) และสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ที่จะเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านการหายใจ ซึ่งอากาศที่เราหายใจเข้าไปก็คือวิธีการง่ายและเร็วที่สุดที่จะนำสารพิษเข้ามาสู่ร่างกายของเรา หากมีน้ำหอมปรับอากาศแบบเสียบปลั๊กใด ๆ ในบ้านหรือรถ ให้ปิดและโยนมันทิ้งไปซะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนในบ้านมีอาการภูมิแพ้หรือหอบหืด
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Indoor Doctor มีผลการศึกษาวิจัย พบว่า มีน้ำหอมปรับอากาศถึง 86% ที่มีสารพาทาเลต (phthalates) ซึ่งอาจขัดขวางการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และทำให้เกิดปัญหาด้านการสืบพันธุ์ แถมน้ำหอมปรับอากาศทั่ว ๆ ไป ก็มักจะมีฟอร์มาลดีไฮด์ ที่เชื่อมโยงกับมะเร็งในจมูกและลำคอ รวมถึงมีสาร VOCs ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืดในเด็ก
อย่างไรก็ตาม ดร.เปดี ยังย้ำอีกว่า ใครที่ยังใช้น้ำหอมปรับอากาศแบบนี้ ให้ทำเพื่อตัวเองและครอบครัวด้วยการโยนมันทิ้งไปซะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากภายในบ้านมีโรคหอบหืดหรือปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจ พร้อมกันนั้น ดร.เปดี ยังแนะนำทางเลือกอื่นๆ สำหรับแก้ปัญหากลิ่นในบ้าน คือ ให้หันมาใช้เครื่องพ่นน้ำมันหอมระเหยแทนนั่นเอง
ข้อมูล Unilad