ทำลงได้ไง! หนูน้อยวัย 3 ขวบ รอที่ รร.หลายวัน ไม่มีใครมารับ ครูไปค้นเจอ กระดาษ ในกระเป๋า อ่านแล้วโกรธหนักมาก (ตปท.)

ทำลงได้ไง! หนูน้อยวัย 3 ขวบ รอที่ รร.หลายวัน ไม่มีใครมารับ ครูไปค้นเจอ กระดาษ ในกระเป๋า อ่านแล้วโกรธหนักมาก (ตปท.)

กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างมากในสังคมโซเชียลของจีน เมื่อเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ SOHA ได้มีการรายงานกรณีของเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใกล้บ้านของเธอ โดยปกติพ่อแม่ของหนูน้อยรายนี้จะมารับตรงเวลาทุกวัน แต่อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งแม้ว่าโรงเรียนจะเลิกเรียนไปนานแล้ว แต่ก็ไม่มีใครมารับเด็กหญิงเลยสักคน

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

ทั้งนี้ เมื่อเห็นหนูน้อยอยู่เพียงลำพัง คุณครูก็คอยอยู่เป็นเพื่อนเด็กหญิงจนถึงเวลา 20.00 น. และพยายามติดต่อผู้ปกครองของเด็ก จนกระทั่งพ่อของเด็กรับสาย แต่ก็บอกเพียงฝากครูดูแลลูกสาวและวางสายไป จากนั้น ครูพบว่าถูกพ่อแม่ของเด็กบล็อคหมายเลขโทรศัพท์ทั้งคู่ เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เธอจึงต้องพานักเรียนคนนี้กลับไปนอนค้างที่บ้านของเธอ

เหตุการณ์ดังกล่าวดำเนินต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน โดยไม่มีใครมารับหนูน้อยวัย 3 ขวบคนนี้เลย ไม่แม้แต่ได้รับโทรศัพท์จากผู้ปกครองของเด็กหญิง แต่แล้วคุณครูก็กลับไปพบว่ามีกระดาษเขียนข้อความสั้นๆ อยู่ในกระเป๋านักเรียนของเด็ก

โดยข้อความในกระดาษเขียนระบุว่า ขอบคุณคุณครู พวกเรากำลังจะหย่ากัน ขอโทษที่ทำให้คุณต้องดูแลเด็ก ซึ่งหลังจากที่อ่านข้อความจบ คุณครูถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และรู้สึกโกรธมากกับทัศนคติที่ขาดความรับผิดชอบของทั้งคู่ เธอจึงพาเด็กสาวไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้

ต่อมา เหตุการณ์ที่สถานีตำรวจ ทัศนคติของผู้เป็นพ่อกลับทำให้ทุกคนโกรธมากยิ่งขึ้น เพราะพวกเขาทั้งสองต้องการ สละสิทธิ์ในการเลี้ยงดู และเพียงรอคำตัดสินอย่างเป็นทางการของศาลเท่านั้น ซึ่งการกระทำของพวกเขาทำให้ครูโกรธมาก แต่เนื่องจากเป็นเพียงคนนอก จึงไม่สามารถแทรกแซงเรื่องครอบครัวภายในของนักเรียนได้มากเกินไป

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

ทั้งนี้ หลังจากเรื่องดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปแล้วนั้น จากการที่ครูท่านดังกล่าวนำมาแชร์ลงโซเชียล การกระทำของผู้ปกครองของเด็กหญิงก็สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวเน็ตแบบสุด ๆ หลายคนคอมเม้นต์ว่า พ่อแม่วัยรุ่นขว้างทิ้งลูกทันที แม้ว่าทั้งสองจะแยกทางกัน แต่การทิ้งลูกไปก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

ข้อมูล SOHA

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ