เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2568 ที่ผ่านมา อุม สม อาน อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่กัมพูชาควรเปิดการเจรจาเพื่อจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ทางทหาร ไม่ว่าจะเป็น F16 หรือ F35 จากสหรัฐอเมริกา ภายหลังรัฐบาลวอชิงตันได้ยกเลิกข้อจำกัดในการจำหน่ายอาวุธให้แก่กัมพูชา
อดีต สส. ระบุว่า นอกจากสหรัฐฯ แล้ว กัมพูชายังมีทางเลือกในการจัดซื้อเครื่องบินรบจากประเทศมหาอำนาจด้านการทหารอื่น ๆ เช่น จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส และสวีเดน เพื่อยกระดับขีดความสามารถของกองทัพอากาศให้ทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้าน

อุม สม อาน ชี้ว่า ในบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียน ปัจจุบันมีเพียงกัมพูชาและติมอร์-เลสเตเท่านั้น ที่ยังไม่มีเครื่องบินขับไล่ประจำการ ขณะที่แม้แต่เมียนมา ซึ่งถูกมองว่าเป็นประเทศยากจนกว่ากัมพูชา ยังมีเครื่องบินรบใช้งานอยู่แล้ว สถานการณ์นี้สะท้อนถึงช่องว่างด้านศักยภาพทางทหารของกัมพูชาในระดับภูมิภาค
อุม สม อาน ระบุเพิ่มเติมว่า กัมพูชาสามารถจัดหาเครื่องบินรบได้ทั้งจากงบประมาณแผ่นดิน หรือผ่านการระดมทุนจากนักธุรกิจระดับออกญา รวมถึงประชาชนชาวกัมพูชา พร้อมประกาศเจตนารมณ์ว่า จะร่วมสมทบทุนด้วยตนเอง หากมีการดำเนินโครงการดังกล่าว
นอกจากเครื่องบินรบแล้ว อุม สม อาน ยังเสนอให้กัมพูชาจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศ หรือระบบป้องกันขีปนาวุธ เช่น ระบบ KS-1C จากจีน หรือระบบจากสหรัฐอเมริกา อิสราเอล หรือประเทศอื่น ๆ เนื่องจากมองว่ากัมพูชา แทบไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศ หรือมีอยู่เพียงจำนวนน้อย และจำกัดการใช้งานเฉพาะการคุ้มครองผู้นำระดับสูงเท่านั้น
ทั้งนี้ อุม สม อาน ยังกล่าวอ้างอีกว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 ของไทย มีการปฏิบัติการทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กัมพูชายังขาดระบบป้องกันทางอากาศที่สามารถตอบโต้หรือสกัดกั้นอากาศยานดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ