เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 สื่อต่างประเทศ SOHA ได้มีการนำเสนอเครื่องปรุงรส ที่กลายมาเป็นภัยเงียบใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม แม้จะเป็นเครื่องปรุงรสที่คุ้นเคยและช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การบริโภคเครื่องปรุงบางชนิดในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ ตับทำงานหนัก และเสี่ยงต่อโรคตับร้ายแรงได้โดยไม่รู้ตัว
โดยทั่วไป แอลกอฮอล์ มักถูกมองว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจของตับ หากดื่มเป็นประจำ ตับจะต้องทำงานหนักเพื่อกำจัดสารพิษ จนเกิดภาวะตับไขมันพอก ตับแข็ง และมะเร็งตับในที่สุด
อย่างไรก็ตาม นักโภชนาการชี้ว่า แม้ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ตับก็อาจถูกทำร้ายได้จาก เครื่องปรุงในครัว ที่ใช้กันเป็นประจำ โดยเฉพาะ 4 ชนิดต่อไปนี้
1. เกลือ
การรับประทานอาหารรสเค็มจัดไม่เพียงส่งผลเสียต่อหัวใจ แต่ยังทำให้ตับทำงานหนักขึ้นด้วย เมื่อร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป กระบวนการขับของเสียจะช้าลง ทำให้สารพิษค้างอยู่ในตับนานขึ้น อีกทั้งเกลือยังทำให้รู้สึกกระหายน้ำ ส่งผลให้หลายคนดื่มน้ำหวานหรือเครื่องดื่มอัดลมมากขึ้น ซึ่งเพิ่มภาระให้ตับอีกทางหนึ่ง
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ผู้ใหญ่บริโภคเกลือไม่เกิน 5 กรัมต่อวัน (ประมาณ 2 กรัมโซเดียม) และหากมีโรคตับควรลดลงเหลือไม่เกิน 3 กรัมต่อวัน โดยผู้ที่มีภาวะบวมหรือความดันโลหิตสูงควรระวังเป็นพิเศษ
2. น้ำตาล
น้ำตาลช่วยให้อาหารรสชาติดีขึ้น แต่หากบริโภคมากเกินไป ตับจะต้องแปรสภาพน้ำตาลส่วนเกินให้เป็นไขมัน ทำให้เกิดภาวะไขมันสะสมในตับ (Fatty Liver) ซึ่งอาจลุกลามเป็นตับอักเสบหรือตับแข็งได้
รายงานจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) ระบุว่า การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพิ่มความเสี่ยงของโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ถึง 30% ขณะที่
WHO แนะนำให้บริโภคน้ำตาลไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมดต่อวัน หรือประมาณ 50 กรัมต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่
3. ซีอิ๊ว (ซอสถั่วเหลือง)
ซีอิ๊วถือเป็นเครื่องปรุงคู่ครัวของคนไทย แต่หากใช้มากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อตับได้ เพราะกระบวนการหมักถั่วเหลืองอาจก่อให้เกิด สารอะมิโนไนไตรต์ (ammonium nitrite) ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ตับซึ่งทำหน้าที่ขจัดสารพิษต้องทำงานหนักเพื่อกำจัดสารนี้ ส่งผลให้เซลล์ตับถูกทำลายและฟื้นตัวได้ช้าลง
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ซีอิ๊วในปริมาณพอเหมาะ ไม่เกิน 10 - 15 มิลลิลิตรต่อวัน และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่หมักด้วยวิธีธรรมชาติ หลีกเลี่ยงชนิดที่มีสารกันเสียหรือสีสังเคราะห์
4. น้ำมันพืช
น้ำมันพืชเป็นแหล่งไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่หากบริโภคมากเกินไป ตับจะต้องเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ทำให้เกิดอนุมูลอิสระและภาวะอักเสบในเซลล์ตับ ความเสี่ยงยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อใช้น้ำมันทอดซ้ำหรือใช้น้ำมันหมดอายุ เนื่องจากอาจเกิด สารอะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งตับที่อันตรายแม้ในปริมาณเล็กน้อย
นักโภชนาการแนะนำให้บริโภคน้ำมันไม่เกิน 25–30 กรัมต่อวัน และหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันทอดซ้ำ ควรเก็บน้ำมันไว้ในที่แห้ง เย็น และพ้นแสงแดดเพื่อป้องกันการเสื่อมคุณภาพ
แม้เครื่องปรุงเหล่านี้จะเป็นของคู่ครัว แต่การใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ตับทำงานหนักและเกิดโรคได้ในระยะยาว การปรับพฤติกรรมการกินและใช้เครื่องปรุงอย่างพอดี คือ กุญแจสำคัญในการดูแล สุขภาพตับ ให้แข็งแรงในทุกมื้ออาหาร
ข้อมูล SOHA