วันที่ 5 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐฯ (ICE) ร่วมกับกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) บุกตรวจค้นโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ ในรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา พร้อมจับกุมแรงงานผิดกฎหมาย จำนวน 475 คน ถือเป็นการบุกตรวจแรงงานในสถานที่เดียวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของหน่วยงานและนับเป็นปฏิบัติการด้านแรงงานครั้งใหญ่ที่สุดในสมัยที่สองของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

โรงงานดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 3,000 เอเคอร์ (7,590 ไร่) เปิดดำเนินการมาแล้ว 1 ปีและเป็นหนึ่งในโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของฮุนไดในสหรัฐฯ แรงงานที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้มากกว่า 300 คน โดยขณะนี้ถูกควบคุมตัวที่ศูนย์กักกันของ ICE ในเมืองโฟล์กสตัน รัฐจอร์เจีย เพื่อรอการพิจารณาในขั้นต่อไป

เจ้าหน้าที่ DHS เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นผลจากการสืบสวนต่อเนื่องหลายเดือนเกี่ยวกับ การจ้างงานผิดกฎหมายและอาชญากรรมอื่นๆ โดยมีการรวบรวมหลักฐาน สัมภาษณ์พยานและได้รับหมายค้นจากศาลก่อนเข้าดำเนินการ โดย ไม่ใช่การสุ่มกวาดล้างแรงงานอพยพ

สตีฟ ชแร็งค์ เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายสืบสวนของ DHS ในแอตแลนตา ระบุว่า นี่คือปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายในสถานที่เดียวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ DHS พร้อมยืนยันว่า เป็นกระบวนการที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบตามขั้นตอนของกฎหมาย

ด้าน รัฐบาลเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์แสดงความ กังวลและเสียใจ ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ เคารพสิทธิของพลเมืองเกาหลีใต้ ที่ถูกควบคุมตัวและยืนยันว่าจะส่งนักการทูตไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อติดตามสถานการณ์ พร้อมทั้งได้ติดต่อประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงโซลโดยตรง

กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของบริษัทลงทุนจากเกาหลีใต้และสิทธิของพลเมืองเกาหลีใต้ ไม่ควรถูกละเมิดโดยไม่เป็นธรรมจากการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ

บริษัท ฮุนได มอเตอร์ ออกแถลงการณ์ยืนยันว่ากำลัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดของเหตุการณ์ โดยเบื้องต้นยืนยันว่า ผู้ที่ถูกจับกุมไม่ใช่พนักงานโดยตรงของฮุนได แม้สายการผลิตของฮุนไดที่โรงงานจะยังดำเนินต่อไปตามปกติ แต่พันธมิตรของฮุนไดอย่าง LG Energy Solutions ซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุนด้านแบตเตอรี่ ได้ประกาศ หยุดการก่อสร้างชั่วคราว ที่ไซต์งานดังกล่าว

ในโลกออนไลน์ มีคลิปวิดีโอเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ ICE เข้าไปในโรงงาน แจ้งหมายค้นต่อพนักงานและควบคุมแรงงานจำนวนหนึ่ง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวที่ทำเนียบขาวว่า คนเหล่านี้คือผู้อพยพผิดกฎหมายและ ICE แค่ทำหน้าที่ของตน เมื่อถูกถามถึงท่าทีของเกาหลีใต้ เขาตอบว่า เราต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศอื่นและต้องการแรงงานที่มั่นคง แต่ความจริงคือมีผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมากและบางคนก็ไม่ใช่คนที่ดีที่สุด พร้อมระบุว่า แรงงานเหล่านี้เข้ามาตั้งแต่ยุครัฐบาลไบเดน

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ มีนโยบายสนับสนุนการ ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะบริษัทเกาหลีใต้ที่ประกาศลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ขณะเดียวกันก็ผลักดันนโยบาย กวาดล้างผู้อพยพผิดกฎหมาย ซึ่งเขามองว่าแย่งงานจากชาวอเมริกัน

ผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย ไบรอัน เคมป์ เคยกล่าวว่า โรงงานฮุนไดแห่งนี้เป็น โครงการพัฒนาเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ โดยคาดว่าจะสร้างตำแหน่งงานได้มากกว่า 1,200 ตำแหน่ง