วันขึ้นปีใหม่ถือเป็น วันตั้งต้นพลังชีวิต ตามความเชื่อของคนไทยมาแต่โบราณ หลายคนจึงเลือกเริ่มต้นปีด้วยสิ่งดี ๆ ทั้งการทำบุญ ไหว้พระ ตั้งปณิธานใหม่ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่เชื่อว่าเป็นลางไม่ดี เพราะเชื่อกันว่า วันแรกของปีเป็นอย่างไร ทั้งปีมักเป็นเช่นนั้น เราจึงรวบรวม 6 ความเชื่อที่ไม่ควรทำในวันปีใหม่ สำหรับสายถือเคล็ด หรือใครที่อยากเริ่มต้นปีอย่างสบายใจ เชื่อไว้ไม่เสียหาย เพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ทำได้ไม่ยาก

1. ห้ามพูดคำหยาบ ทะเลาะ หรือร้องไห้
ตามความเชื่อ วันปีใหม่ควรใช้ถ้อยคำที่เป็นมงคล เพราะคำพูดถือเป็นพลัง หากเริ่มต้นปีด้วยคำหยาบ การโต้เถียง หรือความขุ่นเคืองใจ เชื่อว่าจะนำพาความไม่ราบรื่นมาทั้งปี ยิ่งไปกว่านั้น การร้องไห้ในวันปีใหม่ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์ ความเศร้า และปัญหาที่อาจเกิดซ้ำ ๆ ตลอดปี ดังนั้นควรตั้งใจ คิดดี พูดดี ทำดี เพื่อเปิดรับพลังบวกตั้งแต่วันแรก

2. เลี่ยงการทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่
การกวาดบ้าน ถูพื้น หรือปัดฝุ่นในวันปีใหม่ มีความเชื่อว่าจะเป็นการ กวาดโชคลาภออกจากบ้าน ทำให้เงินทองรั่วไหล โดยเฉพาะบ้านที่มีแขกมาเยี่ยม การกวาดบ้านในวันนั้นยังถูกมองว่าเป็นลางของความแตกแยก หากจำเป็นจริง ๆ แนะนำให้ทำความสะอาดล่วงหน้าก่อนวันสิ้นปี และพักการทำงานบ้านหนัก ๆ ไว้สักวัน

3. ไม่ควรสระผม ตัดผม หรือตัดเล็บ
ความเชื่อโบราณมองว่า การตัดหรือใช้ของมีคมในวันปีใหม่ เปรียบเสมือนการ “ตัดโชค ตัดลาภ ตัดสิ่งดี ๆ ออกไป” รวมถึงสื่อถึงการสูญเสีย หลายคนจึงนิยมตัดผม ตัดเล็บ หรือสระผมตั้งแต่ช่วงปลายปี เพื่อให้วันปีใหม่เป็นวันเริ่มต้นที่สมบูรณ์และเป็นมงคล

4. ระวังทำของตกแตก หรือสะดุดล้ม
ของแตกในวันปีใหม่ เช่น จานแตก แก้วแตก หรือของใช้เสียหาย ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของความไม่ราบรื่น ความขัดแย้ง หรือโอกาสที่หลุดลอย รวมถึงการสะดุดล้มในวันแรกของปี ก็เชื่อกันว่าอาจสื่อถึงอุปสรรคที่ทำให้ชีวิต “ติดขัด” ตลอดปี ดังนั้นควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ระมัดระวังเป็นพิเศษ

5. หลีกเลี่ยงการทำร้ายหรือฆ่าสัตว์
นอกจากจะผิดศีลข้อ 1 แล้ว ความเชื่อไทยยังมองว่า การเริ่มต้นปีใหม่ควรเริ่มด้วยเมตตา หากใครมีอาชีพเกี่ยวข้องกับการจับหรือฆ่าสัตว์ แนะนำให้เว้นอย่างน้อย 1 วัน โดยเฉพาะสัตว์ที่ตรงกับปีนักษัตรของตนเองเพื่อเสริมดวงและลดเคราะห์กรรมตามความเชื่อ 

6. เลี่ยงเสื้อผ้าสีทึบหรือสีหม่น
สีเสื้อผ้าในวันปีใหม่ก็มีความสำคัญ สีดำ สีกรมท่า หรือสีหม่น ถูกมองว่าเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์และความเศร้า
คนโบราณจึงแนะนำให้เลือก สีสันสดใส หรือสีมงคลประจำวัน/ประจำปีเกิด เพื่อเสริมพลัง ความสดชื่น และความเป็นสิริมงคลตลอดปี

โดยสรุป แม้ความเชื่อเหล่านี้จะไม่ได้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันทั้งหมด แต่สำหรับหลายคนถือเป็น กุศโลบายทางใจ ที่ช่วยให้เริ่มต้นปีใหม่ด้วยความสบายใจ มีสติ และคิดบวก เพราะบางครั้ง การเริ่มต้นดี ก็ทำให้เราระมัดระวังและใช้ชีวิตดีขึ้นตลอดทั้งปี เชื่อไว้ไม่เสียหาย หากทำได้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเสริมกำลังใจรับปีใหม่อย่างมีความหวัง