1 ใน เหยื่อ ระเบิดเขมร เล่านาทีชีวิต กินข้าวเสร็จกำลังจะเข้าหลุมหลบภัย แต่ไม่ทันโดนเต็มๆ
ข่าวสังคม - โซเชียล

1 ใน เหยื่อ ระเบิดเขมร เล่านาทีชีวิต กินข้าวเสร็จกำลังจะเข้าหลุมหลบภัย แต่ไม่ทันโดนเต็มๆ

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา หลังเกิดเหตุฝ่ายทหารกัมพูชาใช้อาวุธหนัก เครื่องยิงกระสุนปืนใหญ่แบบ BM.21 ซึ่งเชื่อว่ายิงมาจากบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร กระสุนตกใส่พื้นที่หมู่บ้านเสาธงชัย หมู่ที่ 1 ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. ขณะชาวบ้านและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จำนวน 6 คน กำลังนั่งรับประทานอาหารและพักผ่อนร่วมกันใกล้หลุมหลบภัย ก่อนที่กระสุนจะตกลงบริเวณใกล้จุดดังกล่าว ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 6 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส แขนขวาหัก 1 ราย และได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดอีก 5 ราย ผู้บาดเจ็บบางส่วนถูกนำส่งโรงพยาบาลกันทรลักษ์ ก่อนส่งต่อผู้มีอาการหนักจำนวน 4 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

หนึ่งในผู้บาดเจ็บ นายเสรี ปักอินทรี อายุ 52 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดฝังบริเวณศีรษะ เล่าวินาทีเกิดเหตุว่า ขณะนั้นตนและเพื่อนบ้านนั่งกินข้าวพูดคุยกันตามปกติ หลังจากกินข้าวเสร็จมักจะรีบเข้าหลุมหลบภัย แต่ระเบิดได้ตกลงมาเสียก่อน ทำให้เกิดแรงอัดอย่างรุนแรง จนมีอาการหูอื้อ ไม่ได้ยินเสียงในช่วงแรก ปัจจุบันยังมีอาการเจ็บบริเวณศีรษะ และแพทย์อยู่ระหว่างดูแลสะเก็ดระเบิดที่ฝังอยู่ ตลอดหลายคืนที่ผ่านมา ได้ยินเสียงการยิงปืนใหญ่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องรีบเข้าหลุมหลบภัยทุกครั้งหลังทำกับข้าวเสร็จ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว

นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการประเมินสถานการณ์การสู้รบที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้นมีการปะทะต่อเนื่องประมาณ 5 วัน และประชาชนต้องอพยพอยู่ในศูนย์พักพิงจนถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2568 ทำให้เห็นแนวโน้มว่า หากสถานการณ์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ประชาชนอาจจำเป็นต้องอยู่ในศูนย์อพยพอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์

ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ระบุว่า ขณะนี้ศูนย์อพยพในพื้นที่มีความพร้อมทั้งด้านความปลอดภัย อาหาร การแพทย์ และการดูแลประชาชนอย่างเหมาะสม จึงขอให้ประชาชนอดทน และรอสัญญาณจากฝ่ายทหารก่อนกลับเข้าบ้านเรือน หากประชาชนกลับเข้าไปโดยที่สถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย จะยิ่งเพิ่มความกังวลให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้าหน้าที่ของฝ่ายปกครองและประชาชน คือทำให้หลังบ้านมั่นคง เพื่อให้ทหารแนวหน้าปฏิบัติภารกิจได้อย่างเต็มที่และสบายใจ นายอนุรัตน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดศรีสะเกษ รายงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง