เวลา 14.32 น. วันที่ 8 ธ.ค. 68 ที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อพูดคุยประเด็นคดีส่วนตัว โดยก่อนให้สัมภาษณ์ระบุชัดว่า การเดินทางมาครั้งนี้ไม่ใช่การยื่นหนังสือหรือมาติดตามคดีการเสียชีวิตของนายณัฐวุฒิ ปงลังกา หรือ “นัทปง” ผู้สื่อข่าวชื่อดัง แม้คดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของสังคม

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้ตนมีการนัดพูดคุยกับ ผบช.ภ.1 ถึง 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.คดีล้มบุหรี่ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 100 ล้านบาท (เมื่อเดือนมิถุนายน) ซึ่งระบุว่ามีระดับนายพลและนักการเมืองชื่อดังเข้ามาแทรกแซงไม่ให้ขยายผล 2.คดีส่วนตัวเก่าที่ยังต้องชี้ชัดในกระบวนการกฎหมาย 3.คดีการเสียชีวิตของนัทปง ซึ่งตนมองว่ามีหลายจุดคล้าย คดีแตงโม และยังมีความคลุมเครือที่ต้องตรวจสอบ

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า แม้ครั้งหนึ่งตนและนัทจะมีปัญหากัน แต่ฝ่ายผู้เสียชีวิตเคยเข้ามาขอโทษและจบเรื่องกันด้วยดี พร้อมย้ำว่าผู้ตายเป็น คนเก่ง ขยัน และตั้งใจทำงานเสมอ จึงรู้สึกสงสารที่ต้องจากไปอย่างกะทันหัน พร้อมตั้งข้อสังเกตสำคัญว่า วันเกิดเหตุ ทำไมไม่มี พฐ. เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุทันที และเหตุใดจึงไม่กันพื้นที่ ก่อนมีบุคคลจำนวนหนึ่งเข้าไปในบ้าน ซึ่งอาจทำให้พยานหลักฐานถูกแตะต้องหรือสูญหาย

ทั้งนี้การนำสารไซยาไนด์ไปตรวจสอบนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของสื่อมวลชน แต่เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวน พร้อมติงการนำเสนอข่าวของ สารวัตรไอซ์ และคุณพุทธ ที่ตั้งคำถามและเปิดข้อมูลบางส่วนต่อสื่อเหมือนเป็นซีรีส์หลายตอน ทั้งที่รู้อยู่แล้วตนเองมีกล้องทุกอย่าง

นายอัจฉริยะ มองว่า คดีนี้ไม่ได้มีโครงสร้างซับซ้อน แต่ควรจบด้วยความชัดเจน ไม่ใช่ทำให้ญาติต้องเจ็บปวดกับการผ่าชันสูตร 2–3 รอบ พร้อมเสนอให้ ตรวจลายนิ้วมือบนซองสารต้องสงสัยเพิ่มเติม เพราะมีบุคคลจำนวนหนึ่งเข้าไปยุ่งกับจุดเกิดเหตุ และควรส่งหลักฐานทั้งหมดให้ตำรวจตั้งแต่แรก ปกติผลนิติเวชต้องรอเป็นเดือน แต่คดีนี้พบสารได้เร็ว ถือเป็นข้อดี ควรใช้ข้อมูลนี้คลี่คลายคดีโดยเฉพาะไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้

ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 พร้อม พล.ต.ต.เดชรพี คงดี ผบก.นนทบุรี และทีมพิสูจน์หลักฐานกว่า 13 นาย ได้เดินทางมายังโรงพัก เพื่อสอบปากคำพยานและตรวจความเชื่อมโยงเชิงลึก โดยเตรียม ตรวจ DNA ลายนิ้วมือ วิเคราะห์แชทมือถือของนายกิตติ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญตามแชทจัดหาไซยาไนด์ที่ปรากฏก่อนหน้านี้ เพื่อนำเข้าสำนวนคดี

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดนนทบุรี รายงาน